วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 17 ม.ค. 2563

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
'เสี่ยเจริญ' จ่อฮุบเทสโก้
ขยายอาณาจักรค้าปลีก
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ในกลุ่มบีเจซี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผยว่า บริษัทสนใจจะเข้าไปซื้อ กิจการเทสโก้โลตัสในไทยและมาเลเซีย เพื่อช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจค้าปลีก ทั้งในด้านของการเพิ่มสัดส่วนลูกค้า จำนวนสาขา และประเภทของสาขาที่ไม่เหมือนกันทั้งหมด โดยช่วงที่ผ่านมาทางกลุ่มได้ยื่นเความสนใจและร่วมประมูลซื้อกิจการไปแล้ว ส่วนจะไปในนามบริษัทใดนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจเพราะมีหลายทางเลือก
ธุรกิจแห่ออกหุ้นกู้ 1 ล้านล้าน
นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่าภาพรวมการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้) ปี 62 ที่ผ่านมาสามารถสร้างทำสถิติใหม่ ด้วยยอดการออกหุ้นกู้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยมูลค่ากว่า 1.08 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปี 61 โดย 3 ธุรกิจหลักที่ออกมากที่สุด ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ เงินทุนและหลักทรัพย์ทั้งการทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด (รีไฟแนนซ์) ระดมทุนเพื่อลงทุนในโครงการต่าง ๆ หรือเข้าซื้อกิจการส่วนปี 63 คาดว่าเอกชนไทยยังต้องการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ระยะยาวต่อเนื่องเชื่อว่าจะมีมูลค่าการออกหุ้นกู้ระยะยาวอยู่ที่ 850,000 ล้านบาท
สหรัฐจูบจีนไม่เอื้อส่งออก
ชี้ 3 สินค้ายังกระอักหนัก
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลการลงนามในสัญญาการค้า ระยะที่ 1 ระหว่างสหรัฐกับจีนจะเป็นผลดีต่อการค้าโลกให้มีความคึกคักมากขึ้น แต่เชื่อว่าในภาพรวมการส่งออกไทยไม่ได้รับประโยชน์มากนักและน่าจะมีสินค้าอย่างน้อย 3 ชนิดที่จะมีผลกระทบในเชิงลบ โดยเฉพาะการส่งออกเครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน และอาหารทะเล ที่ไทยส่งออกไปจีน เนื่องจากตามสัญญาจีนต้องซื้อสินค้าจากสหรัฐเพิ่มในช่วง 2 ปีมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ซึ่งสินค้าทั้ง 3 ชนิดไทยมีมูลค่าส่งออกที่มากพอสมควรและเป็นสินค้าที่สหรัฐต้องการส่งออกมาจีนด้วย
คปภ.ปลดล็อกหนุนประกันลงทุน
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ.กำลังพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้บริษัทประกันชีวิต และประกันวินาศภัยขยายรูปแบบการลงทุน และสัดส่วนการลงทุนในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และช่วยอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้รับมือกับปัญหาภาวะดอกเบี้ยต่ำและค่าเงินบาทแข็ง โดยสามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน
รัฐรื้อนิยาม 'เอสเอ็มอี'
น.ส.วิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการรักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ล่าสุดราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมใหม่ ส่งผลให้นิยามการกำหนดคุณลักษณะของเอสเอ็มอีของประเทศเปลี่ยนแปลง โดยนิยามใหม่ ใช้จำนวนการจ้างงานและรายได้เป็นเกณฑ์ จากที่ผ่านมาใช้จำนวนการจ้างงานเป็นหลัก แต่ปัจจุบันภาคธุรกิจเอสเอ็มอี ใช้เทคโนโลยีมากขึ้นแทนการจ้างงานทำให้รูปแบบธุรกิจต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป เช่น บางกิจการมีการจ้างงานไม่ถึง 10 คน แต่สร้างรายได้เกือบ 1,000 ล้านบาทต่อปี กลุ่มนี้ไม่น่าเป็นเอสเอ็มอี
ส่งน้ำขุมเหมือง-น้ำทิ้ง หวังช่วยวิกฤติภัยแล้ง
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้สั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรม สำรวจปริมาณน้ำทิ้งโรงงาน และแหล่งน้ำในขุมเหมืองที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในภาคเกษตรกรรมในช่วงวิกฤติภัยแล้งปี 63 เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมได้มีส่วนช่วยเหลือเกษตรกร และภาคส่วนอื่นๆ ช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในหลายพื้นที่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น