วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 18 ก.ค. 2562

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
'วิรไท'ชี้ 1.75% ต่ำสุดแล้ว
ลดดอกไร้ผลแก้บาทแข็ง
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมนักวิเคราะห์ ว่า ที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าเกิดจากหลายปัจจัย แต่มองว่าอัตราดอกเบี้ยไม่ได้เป็นปัจจัยที่ทำให้มีเงินเข้ามาในประเทศ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของไทยอยู่ในระดับต่ำที่ 1.75% และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ที่ 0.88% เท่านั้น ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค จึงมองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจไม่ได้ส่งผลมากนัก และการดำเนินนโยบายการเงินต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยแต่ละประเทศว่าตอบโจทย์สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ หรือไม่ แต่ ธปท. พร้อมปรับนโยบายการเงินหากสถานการณ์เปลี่ยนไปกว่าที่คาดไว้
ไฟเขียวสลากออกหวยธอส. รอได้เฮลุ้นรางวัลทุกวันที่ 16 
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยความคืบหน้าในการจัดทำโครงการสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดวิมานเมฆว่า ธนาคารอยู่ระหว่างประสานความร่วมมือกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อให้สำนักงานสลากฯ เป็นผู้ดำเนินการกระบวนการออกรางวัลที่กำหนดจัดขึ้นทุกวันที่ 16 ของเดือนให้ เพื่อสร้างความมั่นใจในด้านความโปร่งใสในการออกรางวัลแก่ประชาชนส่วนขั้นตอนทางกฎหมาย หลังจากที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการออกและขายสลากออมทรัพย์ไปแล้ว ขณะนี้ อยู่ระหว่างการนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาก่อนออกเป็นกฎกระทรวง ขณะเดียวกันธนาคารก็ได้จัดทำผลิตภัณฑ์ เงินฝากออมทรัพย์รับโชค
ผุดบ้านคนไทยใจกลางกรุง 
ธนารักษ์ชงขนคลังไฟเขียว
รายงานข่าวจากกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์เตรียม เสนอแผนการนำที่ราชพัสดุมาจัดโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ ระยะสอง เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาถูกให้กับประชาชนกลุ่มผู้มีรายได้น้อย รายได้ปานกลาง ผู้ด้อยโอกาส รวมถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังคนใหม่พิจารณา โดยมีอยู่ในแผน 8 โครงการ 8 จังหวัด ประกอบด้วย พื้นที่กรุงเทพฯ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา กำแพงเพชร สงขลา พังงา ศรีสะเกษ และพะเยา
เอกชนจี้ทยอยขึ้นค่าแรง
นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำนั้นรัฐบาลใหม่ค่อย ๆ ทยอยปรับภายใน 3-4 ปีเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายหาเสียงในการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400-425 บาทต่อวัน โดยช่วงนี้ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของคณะกรรมการไตรภาคีไปก่อนและเมื่อเข้าสู่ภาวะที่เศรษฐกิจดีโรงงานอุตสาหกรรมมีคำสั่งซื้อหรือออร์เดอร์จากลูกค้าจำนวนมากก็อาจปรับขึ้นอย่างจริงจังก็ได้เพื่อให้ผู้ประกอบการและแรงงานอยู่รอด เบื้องต้นเชื่อว่าช่วง 3-4 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจไทยคงสู่ภาวะฟื้นตัวแน่นอน
สุริยะฟิตดันอุตฯ-อุ้มเอสเอ็มอี
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการเป็นประธานในพิธีเปิดงานไทยแลนด์ อินดัสทรี เอกซโป 2019 ซึ่งเป็นการทำงานวันแรกในตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมว่า เรื่องเร่งด่วนที่จะดำเนินการ การพัฒนา 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่เน้นการนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและเทคโนโลยีมากขึ้น โดยจะไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. เพื่อปลดล็อกเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมในโรงงานและการผลิตต่าง ๆ
จักรยานสามล้อเพิ่มแรง รับสูงวัยปั่นเพื่อสุขภาพ 
นายธนภัทร ศิริพรประสาร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ราชา ไซเคิล จำกัด ผู้ให้บริการรับจ้างผลิตจักรยานครบวงจร เปิดเผยว่า ขณะนี้จักรยานสามล้ออเนกประสงค์ ทั้งประเภทปั่นทั่วไป และประเภทจักรยานไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย ทำให้ลูกหลานสนใจเลือกซื้อจักรยานประเภทสามล้อให้กับบุพการีใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิ การเดินทางไปจ่ายตลาด ปั่นเพื่อสุขภาพ เนื่องจากใช้ง่าย ปลอดภัย และยังส่งเสริมเรื่องสุขภาพ ซึ่งเชื่อว่าตลาดดังกล่าวจะได้รับความนิยมต่อเนื่อง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด
ชงขนคลังเคาะกองทุน หวังใช้แทนแอลทีเอฟ 
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) เปิดเผยว่า ขณะนี้ เฟทโก้เตรียมเสนอข้อมูลเร่งด่วนให้กับนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง คนใหม่พิจารณา โดยเฉพาะประเด็นของกองทุนรูปแบบใหม่ เพื่อที่จะเข้ามาทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ที่จะหมดอายุสิ้นปี 62 เบื้องต้นกองทุนรูปแบบใหม่จะให้สิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษีแก่ผู้ที่มีรายได้ปานกลาง และผู้มีรายได้น้อยมากขึ้น คาดว่าจะเสนอข้อมูลในช่วงต้นเดือน ส.ค.62 เพื่อให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ก่อนที่จะบังคับใช้ได้ในปี 63 ขณะเดียวกันจะเร่งผลักดันกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) เพื่อให้เป็นกฎหมายมีผลภาคบังคับ เนื่องจากที่ผ่านมามีการพิจารณาในขั้นตอนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว แต่วาระดังกล่าวไม่ได้มีการพิจารณา เพราะหากเป็นกฎหมายภาคบังคับ จะช่วยให้ประชาชนมีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณ หลังจากที่ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงของสังคมผู้สูงวัยมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น