สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
อุตฯมัดมือ 12 ค่ายรถยนต์
จับลงตรายางผลิตรถสะอาด
นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการลงนามร่วมกับบริษัทผู้ผลิตและนำเข้ารถยนต์ 12 ยี่ห้อ เพื่อแสดงเจตจำนง ยกระดับการผลิตรถยนต์มาตรฐานยูโร 5 รถยนต์ทุกคัน ภายในปี 64 ว่า บริษัทผู้ผลิตและนำเข้ารถยนต์ 12 ยี่ห้อ ได้แก่ อีซูซุ, เอ็มจี, ออดี้, มิตซูบิชิ, นิสสัน, โตโยต้า, บีเอ็มดับ เบิลยู, มาสด้า, เมอร์เซเดส-เบนซ์, มินิ, ซูซูกิ, วอลโว่ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของทุกภาคส่วน ที่จะยกระดับมาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์ให้เทียบยูโร 5 ภายในปี 64 และยูโร 6 ภายในปี 65 เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน
จับลงตรายางผลิตรถสะอาด
นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการลงนามร่วมกับบริษัทผู้ผลิตและนำเข้ารถยนต์ 12 ยี่ห้อ เพื่อแสดงเจตจำนง ยกระดับการผลิตรถยนต์มาตรฐานยูโร 5 รถยนต์ทุกคัน ภายในปี 64 ว่า บริษัทผู้ผลิตและนำเข้ารถยนต์ 12 ยี่ห้อ ได้แก่ อีซูซุ, เอ็มจี, ออดี้, มิตซูบิชิ, นิสสัน, โตโยต้า, บีเอ็มดับ เบิลยู, มาสด้า, เมอร์เซเดส-เบนซ์, มินิ, ซูซูกิ, วอลโว่ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของทุกภาคส่วน ที่จะยกระดับมาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์ให้เทียบยูโร 5 ภายในปี 64 และยูโร 6 ภายในปี 65 เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน
ขุนคลังปิดตายแอลทีเอฟ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงการขยายมาตรการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ที่จะสิ้นสุดในสิ้นปี 62 ว่า โดยหลักการแล้วแอลทีเอฟควรสิ้นสุดลง เนื่องจากขณะนี้ตลาดทุนไทยมีความเข้มแข็ง และขนาดใหญ่เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการภาษีมาช่วยกระตุ้นอีก แต่หากจะทำต่ออีก ก็ต้องปรับปรุงรูปแบบกันใหม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศเป็นผู้พิจารณา
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงการขยายมาตรการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ที่จะสิ้นสุดในสิ้นปี 62 ว่า โดยหลักการแล้วแอลทีเอฟควรสิ้นสุดลง เนื่องจากขณะนี้ตลาดทุนไทยมีความเข้มแข็ง และขนาดใหญ่เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการภาษีมาช่วยกระตุ้นอีก แต่หากจะทำต่ออีก ก็ต้องปรับปรุงรูปแบบกันใหม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศเป็นผู้พิจารณา
วอนเลิกหาเสียงด้วย'ข้าว' สร้างความยั่งยืนให้ชาวนา
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายพรรคการเมืองมีนโยบายหาเสียงช่วยเหลือชาวนาด้วยการมุ่งเน้นราคา และการอุดหนุนในอัตราที่สูง ๆ เพื่อจูงใจชาวนาทั่วประเทศที่มีจำนวน 20 ล้านคน จึงอยากให้พรรคการเมืองที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลให้ความสำคัญด้านการสร้างความยั่งยืนแก่ชาวนา และข้าวไทยพร้อม ๆ กับการเพิ่มรายได้แก่ชาวนา เช่น ลดต้นทุนการผลิต, ส่งเสริมพัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีมูลค่าและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก, การเก็บเกี่ยวที่ถูกต้อง, ผลักดันให้โรงสีที่มีคุณภาพในการสีแปร, พ่อค้าในประเทศและผู้ส่งออกร่วมกันเสนอราคารับซื้อที่เหมาะสมหรือไม่กดราคา และที่สำคัญต้องระมัดระวังเรื่องของการใช้งบประมาณมากเกินจำเป็น จนเป็นภาระของรัฐบาลในภายหลังด้วย เป็นต้น
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายพรรคการเมืองมีนโยบายหาเสียงช่วยเหลือชาวนาด้วยการมุ่งเน้นราคา และการอุดหนุนในอัตราที่สูง ๆ เพื่อจูงใจชาวนาทั่วประเทศที่มีจำนวน 20 ล้านคน จึงอยากให้พรรคการเมืองที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลให้ความสำคัญด้านการสร้างความยั่งยืนแก่ชาวนา และข้าวไทยพร้อม ๆ กับการเพิ่มรายได้แก่ชาวนา เช่น ลดต้นทุนการผลิต, ส่งเสริมพัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีมูลค่าและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก, การเก็บเกี่ยวที่ถูกต้อง, ผลักดันให้โรงสีที่มีคุณภาพในการสีแปร, พ่อค้าในประเทศและผู้ส่งออกร่วมกันเสนอราคารับซื้อที่เหมาะสมหรือไม่กดราคา และที่สำคัญต้องระมัดระวังเรื่องของการใช้งบประมาณมากเกินจำเป็น จนเป็นภาระของรัฐบาลในภายหลังด้วย เป็นต้น
จี้ห้างอ้างขายน้ำมันปาล์มถูก
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการค้าภายในได้ทำหนังสือถึงห้างสรรพสินค้า ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดให้ยกเลิกการอ้างอิงราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 1 ลิตร ไม่เกิน 42 บาท เนื่องจากได้มีการยกเลิกการกำหนดเพดานอัตราดังกล่าวแล้ว ล่าสุดยังพบว่ามีบางห้างสรรพสินค้าและร้านค้าหลายแห่งยังจัดทำโปรโมชั่นลดราคาขายด้วยการอ้างว่าลดจาก 42 บาทต่อขวด ถือว่าเป็นการเอาเปรียบและหลอกลวงผู้บริโภคประกอบกับในปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มดิบหรือซีพีโอราคาเฉลี่ยที่ 16 บาทต่อลิตร และน้ำมันปาล์มบรรจุขวดไม่ควรเกิน 30 บาท ดังนั้นหากมีประชาชนร้องเรียนว่าผู้ประกอบการยังอ้างอิงราคาเพดานไม่เกิน 42 บาท กรมฯจะดำเนินการอย่างหนัก มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการค้าภายในได้ทำหนังสือถึงห้างสรรพสินค้า ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดให้ยกเลิกการอ้างอิงราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 1 ลิตร ไม่เกิน 42 บาท เนื่องจากได้มีการยกเลิกการกำหนดเพดานอัตราดังกล่าวแล้ว ล่าสุดยังพบว่ามีบางห้างสรรพสินค้าและร้านค้าหลายแห่งยังจัดทำโปรโมชั่นลดราคาขายด้วยการอ้างว่าลดจาก 42 บาทต่อขวด ถือว่าเป็นการเอาเปรียบและหลอกลวงผู้บริโภคประกอบกับในปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มดิบหรือซีพีโอราคาเฉลี่ยที่ 16 บาทต่อลิตร และน้ำมันปาล์มบรรจุขวดไม่ควรเกิน 30 บาท ดังนั้นหากมีประชาชนร้องเรียนว่าผู้ประกอบการยังอ้างอิงราคาเพดานไม่เกิน 42 บาท กรมฯจะดำเนินการอย่างหนัก มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น