สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ชงเรียกค่าเสียหายข้าวเพิ่ม ทะลุแสนล.คู่สัญญาทำมึน
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) วันที่ 22 ต.ค.นี้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาการคำนวณมูลค่าความเสียหายของข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 17.76 ล้านตันใหม่ โดยเสนอให้พิจารณา นำค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าเช่าคลังเก็บข้าวสาร ค่าดูแลรักษาสภาพข้าว (ค่ารมยา) เป็นต้น มาคำนวณด้วย ซึ่งจะทำให้มูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่กรมการค้าต่างประเทศได้ระบายออกจนหมด และได้เงินส่งคืนกระทรวงการคลังมูลค่า 146,000 ล้านบาท เนื่องจากวิธีการคำนวณความเสียหายเดิมทำให้รัฐจะได้รับเงินชดเชยจากคู่สัญญา ทั้งเจ้าของคลังสินค้าและบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) เป็นวงเงินที่น้อยเกินไปเพียงกว่า 90,000 ล้านบาท ไม่คุ้มค่า กับความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะที่รัฐใช้งบประมาณดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกสูงถึง 200,000-300,000 ล้านบาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) วันที่ 22 ต.ค.นี้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาการคำนวณมูลค่าความเสียหายของข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 17.76 ล้านตันใหม่ โดยเสนอให้พิจารณา นำค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าเช่าคลังเก็บข้าวสาร ค่าดูแลรักษาสภาพข้าว (ค่ารมยา) เป็นต้น มาคำนวณด้วย ซึ่งจะทำให้มูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่กรมการค้าต่างประเทศได้ระบายออกจนหมด และได้เงินส่งคืนกระทรวงการคลังมูลค่า 146,000 ล้านบาท เนื่องจากวิธีการคำนวณความเสียหายเดิมทำให้รัฐจะได้รับเงินชดเชยจากคู่สัญญา ทั้งเจ้าของคลังสินค้าและบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) เป็นวงเงินที่น้อยเกินไปเพียงกว่า 90,000 ล้านบาท ไม่คุ้มค่า กับความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะที่รัฐใช้งบประมาณดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกสูงถึง 200,000-300,000 ล้านบาท
สั่ง'เดลิเวอรี่-ออนไลน์' จุดเปลี่ยนธุรกิจอาหาร
น.ส.นวลพรรณ น้อยรัชชุกร รองผู้อำนวยการวิเคราะห์หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการธุรกิจกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยังเติบโตคงที่ประมาณ 2-3% ถือว่าอยู่ในระดับทรงตัว เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมาสามารถเติบโตได้ที่ระดับ 5% เพราะได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมาเลือกรับประทานอาหารผ่านการสั่งซื้อสินค้าแบบเดลิเวอรี่ ทั้งการโทรฯสั่งหรือออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจอาหารต้องปรับตัวเพิ่มขึ้น
น.ส.นวลพรรณ น้อยรัชชุกร รองผู้อำนวยการวิเคราะห์หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการธุรกิจกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยังเติบโตคงที่ประมาณ 2-3% ถือว่าอยู่ในระดับทรงตัว เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมาสามารถเติบโตได้ที่ระดับ 5% เพราะได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมาเลือกรับประทานอาหารผ่านการสั่งซื้อสินค้าแบบเดลิเวอรี่ ทั้งการโทรฯสั่งหรือออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจอาหารต้องปรับตัวเพิ่มขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น