วันศุกร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 05 ม.ค. 2561

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
'มาม่า'พลิกขายพรีเมี่ยม
นายพจน์ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาม่า เปิดเผยว่า บริษัทจะเน้นขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบพรีเมี่ยม ราคาตั้งแต่ 15 บาทขึ้นไป ในช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่มากขึ้น หลังพบว่ามีอัตราเติบโตดีกว่าบะหมี่ซองละ 6 บาท ที่เริ่มอิ่มตัว โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการขายจากเดิม 10% เป็น 20% ในปี61 ซึ่งจะช่วยทำให้ส่วนแบ่งการตลาดกลับมาอยู่ที่ 50% ได้เหมือนเดิม
ทีเฟ็กซ์เดินหน้าออนไลน์ เร่งเครื่องเพิ่มสินค้าใหม่
น.ส.รินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) (ทีเฟ็กซ์) เปิดเผยว่า ในปี 61 ทีเฟ็กซ์ จะปรับปรุงและเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะสัญญาที่ให้สิทธิแก่ผู้ถือหรือผู้ซื้อ ตลาดหุ้น 50 ล่วงหน้า และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ยางแผ่นรมควันชั้น 3 รวมถึงการปรับสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานและบริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น รวมทั้งขยายฐานผู้ลงทุนคุณภาพผ่านการส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับสินค้ากลยุทธ์และแนวคิดในการซื้อขาย ผ่านช่องทางออนไลน์และเครื่องมือที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม
เที่ยวไทยปี60ทุบสถิติ รายได้พุ่ง2.76ล้านล้านบ.
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวในปี 60 โดยตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 60 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 2.76 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วยเดียวกันของปีก่อน 9.6% แยกเป็น นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาประเทศไทยทะลุ 35 ล้านคน นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยสร้างรายได้สูงถึง 1.83 ล้านล้านบาท ส่วนคนไทยเที่ยวไทย มีการเดินทางกว่า 152 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 9.3 แสนล้านบาท ส่วนปี 61 ได้ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท และไทยเที่ยวไทย 1 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ไทยเที่ยวไทยมีรายได้แตะล้านล้านบาท
เปิดพิมพ์เขียวชาติเพิ่มแข่งขัน
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการฯ ได้เสนอร่างยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาแล้ว โดยในร่างยุทธศาสตร์ฯ มีงานสำคัญ 5 เรื่องที่ต้องเร่งขับเคลื่อน คือ ต้องเร่งผลักดันให้ไทยเป็นมหาอำนาจทางด้านการเกษตร ด้านอุตสาหกรรม และการบริการแห่งอนาคต เพื่อเป็นแม่เหล็กด้านการท่องเที่ยวในระดับโลก การพัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์เพื่อเชื่อมไทยเชื่อมโลก และสร้างนักรบเศรษฐกิจยุคใหม่ ตั้งเป้าหมายเมื่อสิ้นสุดแผนในปี 79 ประเทศไทยต้องก้าวขึ้นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
'ผู้ส่งออก'หนีตายบาทแข็ง ขอปรับราคาสินค้าเพิ่ม1% ร้องรัฐคุมบาท33ต่อดอลล์
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกจำนวนมากเตรียมเจรจากับลูกค้าในต่างประเทศเพื่อขอปรับขึ้นราคาสินค้าเฉลี่ย 1% หลังจากประสบปัญหาการแข็งค่าของเงินบาทจนบางรายแทบจะไม่มีกำไรหรือขาดทุน เห็นได้จากในปี 60 ผู้ส่งออกไทยต้องสูญเสียเงิน หรือมีกำไรลดลงในกรณีที่แลกเงินจากดอลลาร์สหรัฐกลับมาเป็นเงินบาทประมาณ 350,000 ล้านบาท โดยผู้ผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป และสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศจะได้รับความเดือดร้อนมากสุด
ดันรสชาติอาหาร'ท้องถิ่น'แกงฮังเล-ลาบคั่วหนุนทัวร์
นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า เตรียมร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ตั้งคณะทำงานจัดทำมาตรฐานอาหารไทยแท้ ระดับท้องถิ่น (โลคัล ออเทนติค) เช่น ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอาหารไทย ปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งมีความเชี่ยว ชาญในพื้นที่ เนื่องจากต้องการยกระดับมาตรฐานเมนูอาหารระดับท้องถิ่น ให้มีคุณภาพ สะอาดปลอดภัย รสชาติให้เป็นเอกลักษณ์มาตรฐานที่ถูกต้อง ไม่ใช่ทำตามความต้องการแต่ละราย ทำให้รสชาติผิดเพี้ยนจากต้นตำรับ และยังส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับท้องถิ่นได้อีกด้วย หลังจากได้ประกาศเมนูอาหารรสชาติไทยแท้ไปแล้ว 13 เมนู
ระดมกึ๋นศก.ต่อยอดอี-คอมเมิร์ซ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้เรียกรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานเศรษฐกิจ ทั้ง กระทรวงการคลัง, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, บมจ.ทีโอที, บมจ.กสท โทรคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อหารือถึงแผนการทำงานในปี 61 โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากโครงการเน็ตประชารัฐที่ปัจจุบัน บมจ.ทีโอที ได้มีการติดตั้งในส่วนของทีโอทีแล้วเสร็จทั้ง 24,000 หมู่บ้านตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ธปท.วางเกณฑ์ปล่อยกู้'รีเวิร์สมอทเกจ'ผู้สูงอายุ
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้กำหนดแนวนโยบายเรื่องการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (รีเวิร์ส มอทเกจ) ของสถาบันการเงิน เพื่อให้สถาบันการเงินมีการบริหารความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อดังกล่าว และมีการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเหมาะสม โดยสถาบันการเงินต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนด เช่น มีการนำเสนอหรือสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้กู้ที่เป็นผู้สูงอายุเกี่ยวกับลักษณะของสินเชื่อ ความเสี่ยง และสิทธิในกรณี ต่าง ๆ อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้กู้ที่เป็นผู้สูงอายุสามารถตัดสินใจได้ตรงตามความต้องการและความเสี่ยงที่ตนสามารถยอมรับได้ โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 61

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น