วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2566

สรุปข่าวโลกธุรกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 25 ม.ค. 2566

 สรุปข่าวโลกธุรกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า 

สรท.ยื่น 5 ข้อเรียกร้องถึงธปท. ลดผลกระทบภาคส่งออกจากบาทแข็ง 
จากกรณีที่ค่าเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในระดับ 32.55-32.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติแข็งค่าสูงสุดในรอบ 10 เดือนนั้น ทางด้าน ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่าคณะกรรมการ สรท. ได้ประเมินปัญหาการดำเนินธุรกิจจากสมาชิกซึ่งได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ผลิตเพื่อส่งออกกลุ่มสินค้าเกษตรและกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศในสัดส่วนสูง อาทิ กลุ่มสินค้าผักและผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง กระป๋องและแปรรูป ซึ่งแม้ว่าส่งออกมากขึ้นในปี 2564 แต่มูลค่าส่งออกกลับมาหดตัวในไตรมาส 3-4 ของปี 2565 และต่อเนื่องไตรมาส 1 ปี 2566 และเมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นส่งผลต่อการกำหนดราคาและขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยเมื่อเปรียบเทียบ กับคู่ค้าคู่แข่งในประเทศที่ค่าเงินอ่อนกว่าไทย ทั้งการทำสัญญาซื้อขายในปัจจุบันและตลอดปี 2566 ดังนั้น หากไม่สามารถรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทจะส่งผลให้มูลค่า การส่งออกสินค้าที่มีสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศในสัดส่วนสูงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ

คาดกนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ทั้งปีอยู่ที่ 1.75%-เงินเฟ้อแผ่ว 
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 25 มกราคม 2566 นั้นคาดว่า กนง. จะยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องที่ 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 1.50% ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือน ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมาเร่งสูงขึ้นที่ระดับ 5.89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) เนื่องจากราคาพลังงาน เช่น ค่าไฟ ก๊าซหุงต้ม น้ำมัน และอาหารสด ยังทรงตัวในระดับสูง ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังโดยการเปิดประเทศจีนที่เร็วกว่าคาดจะเป็นปัจจัยหนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้น เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในประเทศจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศจีนที่ทยอยกลับมาเป็นปกติจะช่วยหนุนการส่งออกไทย

คาดปี'66 ส่งออกโต 1-2% พาณิชย์ยอมรับเผชิญหลายปัจจัยลบ 
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศ การค้า ชายแดนและผ่านแดน เดือนธันวาคม 2565 และภาพรวมปี'65 พร้อมเป้าหมายและแผนเร่งรัดการส่งออกปี 2566 โดยตัวเลขการส่งออก ธันวาคม 2565 ติดลบ 14.6% มีมูลค่า การส่งออก 776,324 ล้านบาท ส่วนการส่งออก ทั้งปี 2565 บวก 5.5% เกินเป้าที่ตั้งไว้ที่ 4% มีมูลค่าส่งออก 9,944,317 ล้านบาท โดยการ ส่งออกเดือนธันวาคม 2565 หมวดสินค้าเกษตร -11.6% มูลค่า 72,992 ล้านบาท ทั้งปี'65 สินค้าเกษตร +2.2% มูลค่า 925,383 ล้านบาท สินค้าที่ขยายตัวดี 1.ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง สับปะรดสด ทุเรียนสด ฯลฯ หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เดือน ธันวาคม 2565-10.8% มูลค่า 55,637 ล้านบาท ทั้งปี'65 +17.8% มูลค่า 788,321 ล้านบาท สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ นมและผลิตภัณฑ์จากนม อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ขณะที่ สินค้าอุตสาหกรรม ธันวาคม 2565 -15.7% มูลค่า 616,549 ล้านบาท ทั้งปี'65 + 4.4% มูลค่า 7,819,845 ล้านบาท สินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวดี ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้สำหรับเดินทาง รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น