วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2566

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 19 ม.ค. 2566

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

เปิดวิธีรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล
รายงานข่าวจาก ฝ่ายนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลและนวัตกรรมทางการเงิน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า แนวทางการรักษาความปลอดภัยในการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าของ ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องจัดทำบัญชีทรัพย์สินของลูกค้าแยกแต่ละราย โดยต้องเก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้าแยกออกจากทรัพย์สินของตน และไม่นำทรัพย์สินของลูกค้าไปใช้เพื่อการอื่นใด รวมถึงการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้า ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ในกระเป๋าเย็น ของผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลไม่น้อยกว่า 80% และจัดเก็บไว้ในกระเป๋าเงินร้อน และกระเป๋าเงินเย็น ของผู้ประกอบธุรกิจเองได้ประเภทละไม่เกิน 10%

'สุริยะ' สั่งหาทางรอดเอกชน
หลังกระอักปัญหาค่าไฟแพง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ศึกษาผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมจากกรณีที่ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือเอฟที งวด ม.ค.-เม.ย.66 ประเภทธุรกิจอุตสาหกรรมที่ปรับขึ้นมาอยู่มาเฉลี่ยรวม 5.33 บาทต่อหน่วย พบว่า ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4.88% ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า รองลงมา ได้แก่ ซีเมนต์ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์คอนกรีต เครื่องแต่งกาย และเซรามิก

จีนเปิดเมืองดันจีดีพีเพิ่ม
รายงานข่าวจากสำนักวิจัย กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (เคเคพี) เปิดเผยว่า ได้ประเมินการเปิดประเทศที่เร็วกว่าคาดของจีนส่งผลบวกค่อนข้างมากต่อเศรษฐกิจไทยในปี 66 จากภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว แม้ว่าในระยะสั้นจีนยังเจอความท้าทายจากการระบาดของโควิดก็ตาม โดยปรับจีดีพีจากเดิมคาดปีนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.8% เป็น 3.6% คาดว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 25.1 ล้านคนจากที่เคยคาด 19.2 ล้านคน ซึ่งส่งผลบวกเพิ่มเติมต่อการบริโภคในประเทศ

รัฐแฉมีลักลอบเผาอ้อยอื้อซ่า
นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาการเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) จัดการประชุมเพื่อขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ ในการดูแลชาวไร่ และอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ รวมทั้งเร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองของประเทศที่เกิดจากการเผาอ้อยเพื่อคืนอากาศบริสุทธิ์ให้แก่คนไทยในช่วงที่ต้องเผชิญกับโควิด-19 และยังเป็นการหนุนภาคเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว

รื้อ 'ประมูลดาวเทียม' เลหลังใบอนุญาตเก่า
พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ได้เห็นชอบให้สำนักงาน (กสทช.) ไปจัดทำร่างปรับหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการ เข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (แพ็กเกจ) ใหม่ เพื่อให้สามารถนำใบอนุญาตชุดที่เหลือที่ยังประมูลไม่ออก คือ ชุดที่ 1 วงโคจร 50.5 อีและ ชุดที่ 5 วงโคจร 142 อี มาจัดสรรใหม่ให้ได้ เพื่อเป็นการรักษาวงโคจรดาวเทียมที่ได้รับการจัดสรรมาจาก สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ไอทียู โดยเฉพาะในใบอนุญาตชุดที่ 1 ที่มีเงื่อนไขว่าเอกชนที่ได้รับใบอนุญาต จะต้องนำดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศในเดือน พ.ย.67 ซึ่งการปรับหลักเกณฑ์ใหม่ อาจจะใช้วิธีประมูลโดยการคัดเลือกคุณสมบัติ โดยไม่เคาะราคา (บิวตี้ คอนเทสต์) และการพ่วงวงโคจรที่สามารถให้บริการในไทยได้ ฯลฯ โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 6 เดือน

ดัน 'จีไอ' ทะลุเป้า 177 สินค้า สร้างมูลค่าตลาด 4.8 หมื่นล.
นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานปี 65 ที่ผ่านมา กรมทรัพย์สินทางปัญญา สามารถขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือจีไอ ได้ทะลุเป้าหมาย 25 สินค้า ส่งผลให้มีสินค้าท้องถิ่นไทยที่ขึ้นทะเบียนจีไอสำเร็จรวมทั้งสิ้น 177 สินค้า สร้างมูลค่าการตลาดกว่า 48,000 ล้านบาท โดยมีสินค้าสำคัญ อาทิ ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา ข้าวหอมกระดังงานราธิวาส ไชโป๊โพธาราม พุทรานมบ้านโพน และผ้าไหมปักธงชัย เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น