สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ค่าเงินฟื้นปีหน้าชี้ 34 บาทพอ
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อไปจนถึงปี 66 จากนั้นจึงเริ่มคงดอกเบี้ย มีผลทำให้การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทพลิกฟื้นกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ รวมทั้งมาจากปัจจัยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีมากขึ้นในปี 66 คาดว่าจะมี 20 ล้านคน โดยทำให้ค่าเงินบาทปี 66 อยู่ที่ 33.50-34 บาทต่อดอลลาร์ หลังจากสิ้นปีนี้คาดเงินบาทจะอยู่ที่ 35.5-36 บาทต่อดอลลาร์
ห่วงการเมืองกระทบเชื่อมั่น
ถกสศช.คาดหนี้สาธารณะลด
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ล่าสุด บริษัท เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์ ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยไว้ที่ บีบีบีบวก และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ระดับมีเสถียรภาพ โดยเอสแอนด์พี ได้มองว่าการผ่อนคลายของโควิด และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคนในปีนี้ และเศรษฐกิจไทยจะโตต่อเนื่องจาก 2.9% ในปี 65 เป็นโตเฉลี่ย 3.2% ในช่วงปี 65-68 แต่ยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด คือการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และเสถียรภาพทางการเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้
'โออาร์' เคาะแผนลงทุน 5 ปีแสนล.บุกไลฟ์สไตล์
นายวิศาล ชวลิตานนท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านศักยภาพองค์กร รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโออาร์ ได้อนุมัติแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 66-70) จำนวน 101,486.8 ล้านบาท จัดทำภายใต้วิสัยทัศน์เติมเต็มโอกาสเพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน มีกลยุทธ์ของการเติบโตแบบเอาต์ไซด์-อินโกรท ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของโออาร์ เช่น เครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน เครือข่ายร้านค้าต่างๆ คู่กับดิจิทัล แพลตฟอร์ม เพื่อสร้างคุณค่าร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจทำให้เกิดการส่งต่อโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกขนาดเติบโตไปพร้อมกับโออาร์
กรุงศรีปิดดีลซื้อไฟแนนซ์
นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า กรุงศรีฯเข้าซื้อหุ้น 75% เพื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคของโฮม เครดิต ในประเทศอินโดนีเซียและประเทศฟิลิปปินส์ด้วยมูลค่าการลงทุน 17,700.8 ล้านบาท โดยจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), ธนาคารกลางของทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปี 66
'ชิปขาด' คลี่คลาย ยอดผลิตเกินเป้า
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์รวมทุกประเภทเดือนต.ค. 65 อยู่ที่ 170,717 คัน เพิ่มขึ้น 10.83% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 9.75% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 12.31% เนื่องจากได้รับชิ้นส่วน และเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป ที่เพิ่มขึ้นในรถยนต์นั่งบางรุ่น ส่งผลให้ 10 เดือนปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.65) ยอดผลิตรถยนต์อยู่ที่ 1.53 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 12.36% และประเมินเบื้องต้นมีโอกาสที่ยอดผลิตจะเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ระดับ 1.75 ล้านคัน และอาจกลับไปสู่เป้าการผลิตเดิมที่ 1.8 ล้านคัน หรือมากกว่าได้ หากยังคงได้รับชิ้นส่วนและชิปต่อเนื่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น