วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 03 พ.ย. 2565

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เท 1.4 หมื่นล.ปั้นห้าง 2 นคร
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา หรือ ซีพีเอ็น ผู้พัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัล, ที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรม เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้เงินลงทุน 14,000 ล้านบาท เปิดตัวเซ็นทรัลนครสวรรค์ และเซ็นทรัลนครปฐม ในลักษณะมิกซ์ยูสตามแผนงาน 5 ปี (ปี 65-69) ที่จะใช้เงินลงทุน 120,000 ล้านบาท เปิดศูนย์การค้ารวม 50 โครงการ ทั้งในและต่างประเทศ, คอมมูนิตี้มอลล์ 17 แห่ง, ที่อยู่อาศัยรวม 70 โครงการ, อาคารสำนักงาน 13 โครงการ และโรงแรม 37 โครงการ ตั้งเป้าหมายผลักดันให้เป็น 1 ในแลนด์มาร์คไทย

อลหม่านลูกค้าชะลอซื้อรถ
ลิสซิ่งเร่งแจงประกาศสคบ.
นายวิสิทธิ์ พึ่งพรสวรรค์ ประธานสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ออกประกาศชี้แจงข้อเท็จจริงตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หลังจากขณะนี้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องลดต้นลดดอก จะทำให้ดอกเบี้ยถูกลงและสามารถโปะหนี้ได้เหมือนการผ่อนบ้าน จนเกิดการชะลอซื้อก่อนประกาศมีผลหลังวันที่ 10 ม.ค.66 โดยยืนยันว่าการคิดคำนวณดอกเบี้ยไม่ได้เปลี่ยนระบบการคิดคำนวณแต่อย่างใด แม้จะเป็นการคิดแบบคงที่ตลอดอายุสัญญา แต่ได้แจ้งให้ลูกค้ารับรู้ค่างวดเป็นแบบลดต้นลดดอกอยู่แล้ว และยังมีเรื่องการโปะจ่ายหนี้เพื่อให้ได้ลดดอกเบี้ย ซึ่งความจริงคือต้องมาโปะเพื่อปิดบัญชีเท่านั้นแตกต่างจากสินเชื่อบ้านที่สามารถโปะระหว่างงวดได้

เงินไหลออกกดบาทอ่อน 12%
นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดการเงินมีความผันผวนจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของประเทศอื่น ที่รวดเร็วและมากกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ตลาดผันผวน เงินดอลลาร์แข็งค่าจนเทียบสกุลอื่นอ่อนค่าลง โดยยอมรับค่าเงินบาทได้อ่อนค่าลงมาก จากต้นปีจนปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนค่าแล้ว 12% สอดคล้องกับสกุลอื่นในภูมิภาค แต่มั่นใจยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวม และจะต้องติดตามใกล้ชิด ซึ่งมองว่าถ้าเงินบาทแข็งค่าก็อาจไม่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในช่วงเวลานี้เท่าไร เพราะจะกระทบกับการส่งออกสินค้าในเวลานี้

ชง 4 ทางผ่อนปรนภาษีที่ดิน
กังวลโลกชะลอฉุดไทยดิ่ง
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน พิจารณาแนวทางการผ่อนปรนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ใน 4 ประเด็น หลังจากพบว่าได้รับความเดือดร้อนจากอัตราภาษีที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการประเมินราคาที่ดินทั้งประเทศรอบใหม่ ปี 66-69 ที่พบว่าปรับขึ้นเฉลี่ย 8% ขณะเดียวกันที่ดินรกร้างว่างเปล่าซึ่งจะครบกำหนด 3 ปี ที่ต้องเพิ่มอัตราภาษีอีก 0.3% รวมถึง กทม. ยังเตรียมปรับอัตราเก็บภาษีที่ดินเกษตรกรรมเต็มเพดาน 0.15% หรือเก็บเพิ่ม 15 เท่า

ธพว.ปล่อยกู้ 6.6 หมื่นล้าน ชี้เอสเอ็มอีเริ่มผงกหัวแล้ว
น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ธนาคารจะเน้นช่วยเหลือเอสเอ็มอี โดยตั้งเป้าหมายพาผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนได้ตลอดทั้งปี 65 ไม่น้อยกว่า 66,000 ล้านบาท ควบคู่กับช่วยเหลือด้านงานพัฒนาครบวงจร ขณะเดียวกัน ยังสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถให้เอสเอ็มอี เช่น สัมมนาอบรมความรู้ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพิ่มช่องทางการขาย ขยายตลาด จับคู่ธุรกิจ พาเข้าถึงโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ซึ่งที่ผ่านมาช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เข้าถึงบริการและได้รับประโยชน์กว่า 16,000 ราย

จับมือรับประกัน 'รถอีวี' เบี้ยเริ่มต้น 2.53 หมื่นบ.
นายชวมนต์ วินิจตรงจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์พันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มลูกค้าบุคคล ธนาคารทหารไทยธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารร่วมกับธนชาตประกันภัย ทำธุรกิจขายประกันผ่านธนาคาร หรือแบงก์แอส ชัวรันส์ เป็นประกันรถยนต์ไฟฟ้า ประเภท 1 มอเตอร์ 1 ซิงเกิ้ล เรท จัดเต็ม รองรับลูกค้าสินเชื่อของธนาคาร เบี้ยเริ่มต้น 25,300 บาท ครอบคลุมทั้งตัวรถ, ผู้ขับขี่, ทรัพย์สินหากถูกโจรกรรม และมีเงินชดเชยกรณีนอนโรงพยาบาลและชดเชยค่าเดินทางเมื่อนำรถเข้าซ่อม ธนาคารตั้งเป้าหมายเป็นอันดับหนึ่งของตลาด หรือมีมาร์เกตแชร์ 20% ภายใน 2 ปี

ขอจีนปลดล็อกเที่ยวไทย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. จากเดิม 02.00 น. ว่า คาดว่าจะเสนอให้ ครม. พิจารณาได้ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ก่อนการประชุมเอเปค 2022 หากครม. เห็นชอบและกระทรวงมหาดไทยสามารถออกข้อยกเว้นได้ทันก็สามารถทำได้ทันทีเพราะพร้อมอยู่แล้วในพื้นที่ที่เสนอไป ได้แก่ ถนนบางลา ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย พัทยา และกรุงเทพฯ ใน 3 พื้นที่ คือ ถนนข้าวสาร ซอยคาวบอย ซอยพัฒน์พงศ์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ หาก ครม. เห็นชอบจะเริ่มนำร่องที่แรกที่ถนนบางลา จ.ภูเก็ต ก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น