วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2565

สรุปข่าวโลกธุรกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 12 ต.ค. 2565

 สรุปข่าวโลกธุรกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า 

ทรู-ดีแทคยื่นหนังสือกสทช. เร่งพิจารณาควบรวม-ยันผู้บริโภคได้ประโยชน์ 
นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ นายเลิศรัตน์ รตะนานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายประสานงานภาครัฐ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมพนักงานของ 2 บริษัท ยื่นเอกสาร ต่อสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมี พลเอกกิตติ เกตุศรี ผู้ปฏิบัติงาน ประจำประธานกสทช. มารับหนังสือ โดยในหนังสือระบุขอให้เร่งพิจารณา การรวมธุรกิจระหว่าง ทรู ดีแทค

1 พ.ย.เดินเครื่อง 'มีที่มีเงิน' วงเงิน 2 หมื่นล้าน ตั้งเป้า 1 หมื่นราย/ปี 
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า หลังจากได้ตั้งบริษัทมีที่มีเงิน จำกัด เป็นบริษัทลูกของธนาคารออมสิน เพื่อรองรับการปล่อยกู้ เสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการในกลุ่ม เอสเอ็มอี ด้วยทุนเริ่มต้น 1,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ เพื่อให้อนุมัติปล่อยสินเชื่อให้ได้อย่างรวดเร็วคือภายใน 3-5 วัน เนื่องจากใช้ หลักประกันเป็นที่ดิน เพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ชำระหนี้ไม่เกิน 5 ปี ปลอดชำระเงินต้น 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.99-8.99% ต่อปี ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแล้วแต่กรณีของผู้กู้และคุณภาพของที่ดิน โดยได้เตรียมวงเงินไว้รองรับ 21,254 ล้านบาท โดยเตรียมเปิดตัว "บริษัทมีที่มีเงิน" ในวันที่ 1 พ.ย. 2565 นี้ จากนั้นจะเริ่มทดลองปล่อยสินเชื่อ 1 ธ.ค. 2565 หรือ 1 ม.ค. 2566 ทดลองนำร่องกับลูกค้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จากนั้นพร้อมขยายไปพื้นที่อื่นทั่วประเทศ

ไทยกระชับสิงคโปร์ วาง 8 กรอบเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ 
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบท่าทีไทย สำหรับการประชุมกรอบความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสิงคโปร์ (Singapore-Thailand Enhanced Economic Relationship : STEER) ครั้งที่ 6 โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมในวันที่ 12 ตุลาคม 2565 ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อให้คณะผู้แทนไทย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานร่วมฝ่ายไทย ใช้เป็นกรอบในการหารือกับฝ่ายสิงคโปร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น