วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2565

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 07 ต.ค. 2565

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

ลีดเวย์ดันขายรถหัวลากไฟฟ้า
นายฉกาจ แสนจัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอร์รี่ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำขายรถหัวลากไฟฟ้า หรือ (อีวี) ในปี 66 ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 200 คัน ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายปีนี้ พร้อมกันนั้นเน้นผลิตภัณฑ์รถบรรทุกไฟฟ้า 100% จากแบรนด์ ซานี่ คือรถบรรทุกเหมืองไฟฟ้า รถโม่ผสมคอนกรีตไฟฟ้า นอกจากนี้ยังได้เตรียมลงทุนสร้างสถานีสลับแบตเตอรี่ที่ใช้เวลาในการเปลี่ยนแบตเตอรี่เพียง 1.9 นาทีต่อคันรองรับสูงสุดถึง 100 คันต่อวัน เพื่อรองรับรถบรรทุกไฟฟ้าที่จะขายมากขึ้นในอนาคต โดยสถานีสลับแบตเตอรี่ใช้เงินลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท โดยการดำเนินการก่อสร้างสถานีดังกล่าว โดยได้ร่วมมือกับจีพีเอสซี เบื้องต้นนี้ได้สร้างในพื้นที่ที่มีการสัญจรในย่านอุตสาหกรรมที่รถบรรทุกไฟฟ้าวิ่งใช้งาน

ธปท.เปิดแผนสยบบัญชีม้า
แชร์ข้อมูลระหว่างแบงก์-ตำรวจ ดึงกสทช.คุมเข้มบัญชีออนไลน์
น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แนวทางจัดการบัญชีม้าของ ธปท. อยู่ระหว่างหารือกับธนาคาร มีหลายแนวทาง หนึ่งในนั้นเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล หรือแชร์ข้อมูลระหว่างธนาคารพาณิชย์ มีตำรวจอยู่ในแนวทางนี้ด้วย เพื่อให้รับทราบข้อมูลและจะได้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เช่น บุคคลหนึ่งเปิดบัญชีมากผิดปกติ แต่แนวทางที่จะจำกัดการเปิดบัญชีนั้นอาจไม่สามารถทำได้ เพราะจะไปลิดรอนสิทธิลูกค้านอกจากนี้ ได้กำชับธนาคารให้สแกนตรวจสอบบัญชีที่เคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น มีเงินโอนเข้าบัญชีและ ถูกโอนเงินออกไปอย่างรวดเร็ว หรือมีเงินเข้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งบุคคลรายนั้นรายได้ไม่สอดคล้องกับอาชีพการทำงาน โดยเมื่อพบบัญชีธนาคารเคลื่อนไหวผิดปกติ ธนาคารจะส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เข้าตรวจสอบทันที หรือเจ้าหน้าที่ธนาคารอาจเรียกบุคคลนั้นมาพบที่สาขาเพื่อทำการยืนยันตัวตนใหม่อีกครั้ง

แห่ขายบ้านม้วนเสื่อกลับภูธร
ตลาดบ้านมือ 2 เฉียด 1 ล้านลบ.
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ ในไตรมาส 2 ปี 65 มีจำนวนขายเฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มขึ้นเป็น 162,716 หน่วย และมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนมากถึง 995,488 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนหน่วยและมูลค่ามากที่สุดในช่วง 6 ไตรมาสที่ผ่านมา และมีการเพิ่มต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ถึง 17.9% โดยมีการเพิ่มมากขึ้นในเกือบทุกประเภทที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์

ขีดทิ้งบริษัทร้าง8.2พันราย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ออกประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียน 8,282 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากกรมฯ ได้พิจารณาจากมูลเหตุหรือข้อสันนิษฐานแล้ว พบว่าไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 61-63 จึงเชื่อว่าไม่ได้ทำการค้าขายหรือดำเนินธุรกิจแล้ว ส่วนนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด จะให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบดำเนินการเช่นเดียวกัน

สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ-กกร. ร่วมกันเฟ้นหา 15 ซีอีโอต้นแบบ
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย ในฐานะคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร. ในฐานะองค์กรผู้แทนภาคธุรกิจ ได้ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ในฐานะองค์กรภาคสื่อมวลชน และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในฐานะภาควิชาการ จัดทำโครงการคัดเลือกสุดยอดผู้นำองค์กรภาคเอกชน (สุดยอดซีอีโอ) ประจำปี 65 เพื่อเข้ารับรางวัลไทยแลนด์ ซีอีโอ อีคอนแมส อวอร์ด

จี้การเมืองนิ่งดันเศรษฐกิจฟื้น
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในปี 66 หากการเมืองไทยมั่นคงและแน่นอนจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็ว รวมไปถึงการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวที่มีการเติบโตดีขึ้นจะเป็นปัจจัยหลักในการสร้างกำลังซื้อและผลักดันให้เศรษฐกิจและตลาดทุนไทยในกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องไปต่อได้ ขณะที่กระแสข่าวว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในระยะใกล้นี้ มองว่าปัญหาการเมืองมีผลต่อตลาดทุนแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น และอีกส่วนคือความแข็งแกร่งของภาคเอกชนไทย ซึ่งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเอกชนไทยมีความแข็งแรงมาก ทำให้แม้การเมืองจะมีผลต่อเศรษฐกิจและตลาดทุน แต่หากภาคเศรษฐกิจจริงมีความแข็งแรงก็จะไม่พึ่งพิงการเมืองมากนัก

'บิ๊กซี' เร่งปรับกลยุทธ์ ดึงรายได้เพิ่ม 500 ลบ.
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดเผยว่า ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่สำหรับบิ๊กซี สาขาราชดำริเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติที่คาดว่าจะเดินทางเข้าไทยและท่องเที่ยวในไทยในช่วงปลายปีนี้เป็นจำนวนมาก และคาดว่าจะมียอดขายในช่วงปลายปีมากกว่า 500 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น