สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ธ.รัฐรักษา 40 ล้านบัญชียิ่งชีพ
การันตีข้อมูลไม่รั่วไหลแน่ ย้ำดอกขึ้นแต่ค่างวดไม่ขึ้น
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐเปิดเผยว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ทั้ง 8 แห่ง พร้อมในการดูแลฐานข้อมูลลูกค้าทั้งหมด 40 ล้านบัญชีให้มีความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (พีดีพีเอ) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เสนาเช่าซื้อช่วยคนมีบ้าน
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแม้ตลาดอสังหาฯ ปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีปัจจัยลบที่ต้องเผชิญอีกหลายมิติ ทั้งภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้นกลายเป็นต้นทุนชีวิตให้กับผู้บริโภค รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนเป็นอีกปัจจัยหนึ่งส่งผลกระทบให้ราคาพลังงานและวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
แพทย์-อีคอมเมิร์ซผงาดมาก
ผู้ว่าฯ กทม.-หวยไฮเทคอุ้มสม
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้วิเคราะห์ 10 อันดับธุรกิจดาวเด่น และดาวร่วงครั้งปีหลังปี 65 จากกรอบการพิจารณาด้านต่างๆ เช่น ข้อมูลการนำเข้า-ส่งออก, ข้อมูลสินเชื่อธนาพาณิชย์, ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต, ดัชนีราคาผู้บริโภค ภาวะเศรษฐกิจไทย และคู่ค้า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ พบว่า 10 ธุรกิจดาวเด่น ได้แก่ 1.ธุรกิจการแพทย์และความงาม ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ 2.ธุรกิจแพลตฟอร์มธุรกิจตัวกลางหรือตลาดกลางด้านอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจโลจิสติกส์ ดิลิเวอรี่ และคลังสินค้า ส่วนอันดับ 3.คลาวด์ สตอร์เรจ ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต ธุรกิจอาหารเสริมและสุขภาพ 4.อี-สปอร์ต โซเชียล และออนไลน์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ 5.ธุรกิจจัดการคอนเทนต์ธุรกิจ ยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ และการรีวิวสินค้า มีเดียร์ ธุรกิจสื่อโฆษณา 6.ธุรกิจเวชภัณฑ์ยา ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์ และทางการแพทย์ 7.ธุรกิจด้านฟินเทค และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี งานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจ อีเวนต์ 7.ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน 8.ธุรกิจโมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ธุรกิจสมุนไพรไทย เช่น กัญชงกัญชา ใบกระท่อม 9.ธุรกิจสถานบันเทิง ธุรกิจยานยนต์ และ 10.ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
'ไลน์' ลุยตลาดเอ็นเอฟที
น.ส.ธรรมรดี ไพรพิรุณโรจน์ หัวหน้าธุรกิจ คอนซูเมอร์ บิสิเนส ไลน์ ประเทศไทย กล่าวว่า ไลน์ ได้ต่อยอดนำธุรกิจไลน์ สติกเกอร์ ที่มีครีเอเตอร์กว่า 1 ล้านราย และสติกเกอร์ กว่า 5.3 ล้านชุด มาต่อยอดในตลาดเอ็นเอฟที โดยได้คัดเลือก ไลน์ ครีเอเตอร์ ชื่อดังที่ออกแบบสติกเกอร์กว่า 30 ราย มาพัฒนาเอ็นเอฟที และพร้อมให้บริการแบรนด์สินค้าผ่านโซลูชั่นครบวงจรใน 3 ด้าน ได้แก่ บริการให้คำปรึกษา จัดเวิร์กช็อปให้ความรู้ ระดมสมอง คิดแนวทางการทำการตลาดเอ็นเอฟทีที่เหมาะสมกับแบรนด์ บริการออกแบบ และผลิตเอ็นเอฟที และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มที่เหมาะสม อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยครีเอเตอร์ 30 ราย มากกว่า 10% ที่มีประสบการณ์ทำเอ็นเอฟทีขายในตลาดอยู่แล้ว ซึ่งบางรายมีมูลค่าซื้อขายมากกว่า 1 ล้านบาท เชื่อว่าจะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ประสบความสำเร็จในตลาดได้
เผยอัตราว่างงานพุ่ง 2% 'คนไอที' ตลาดต้องการ
น.ส.ดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ได้สำรวจสรุปภาพรวมและแนวโน้มตลาดงานปี 65 โดยอ้างอิงจากจำนวนประกาศงานและข้อมูลการสมัครงาน พบว่า เศรษฐกิจภาพรวมยังคงชะลอตัว ส่งผลให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2% โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ยังคงอยู่ในช่วงเฝ้าระวังและจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด โดยธุรกิจที่เปิดรับสมัครงานสูงสุด ได้แก่ ธุรกิจไอที 11.3% ขายส่ง ขายปลีก 10.8% และ ธนาคารและการเงิน 8.4% ส่วนด้านสายงานที่มีใบสมัครสูงสุด ได้แก่ งานขาย งานบริการลูกค้า 14.3% 2.สายงานการตลาด งานประชาสัมพันธ์ 11.7% และ 3.สายงานธุรการและทรัพยากรบุคคล 10.9%
จี้ทำงานศิลป์ 'แอลจีบีทีคิว'
นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่าได้มอบหมายให้สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) นำแนวคิดการเปิดกว้างทางสังคมความหลากหลายทางเพศและกลุ่มแอลจีบีทีคิวพลัสที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาใช้ในการพัฒนางานศิลปหัตถกรรมไทยให้ทุกคนเข้าถึงและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันให้มากขึ้นรวมถึงให้ทำผลิตภัณฑ์เป็นคอลเลกชั่นพิเศษสำหรับเดือน มิ.ย.65 ที่เป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มหลากหลายทางเพศหรือไพรด์มันธ์
คาดกนง.ขึ้นดอก 2 ครั้ง หวังช่วยชะลอเงินเฟ้อ
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ได้ประเมินคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ ในเดือน ส.ค. และเดือน พ.ย. ซึ่งเชื่อว่าจะเว้นเดือนก.ย. ไว้เพื่อประเมินสถานการณ์ หลังจากปรับขึ้นในรอบแรกที่ 0.25% เพื่อจัดการกับเงินเฟ้อให้ลดลง และชะลอเงินบาทอ่อนค่าไม่ให้อ่อนเร็วเกินไป ซึ่งที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนส่วนใหญ่ 80-90% มาจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด และคาดว่ามีโอกาสอ่อนค่าสุดในปีนี้ 36.00 บาทต่อดอลลาร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น