วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 03 ก.พ. 2565

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

อัด 5 หมื่นลบ.ลุยหนักธุรกิจ
น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ภายใน 5 ปีนี้จะใช้เงินลงทุน 50,000 ล้านบาท ประกอบด้วย ลงทุนสำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ 18,000 ล้านบาท ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม 18,000 ล้านบาท ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน 10,000 ล้านบาท และอีก 4,000 ล้านบาท ลงทุนในธุรกิจดิจิทัลธุรกิจสตาร์ทอัพและเทคโนโลยี เพื่อก้าวสู่บริษัทเทคโนโลยีในปี 67 และมีรายได้ 21,000 ล้านบาท ในปี 69

ไทยกุมขมับผจญดอกเบี้ยขึ้น
เตือนค่างวดผ่อนบ้านทะยาน ธอส.ดันปล่อยกู้ปีเสือเพิ่ม 5%
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ประเทศไทยจะเผชิญภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นเช่นเดียวกับประเทศอื่นทั่วโลก หลังธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยถึง 7 ครั้ง ซึ่งจะทำให้ผู้กู้ซื้อที่อยู่อาศัย มีความเสี่ยงที่จะมีภาระผ่อนชำระค่าบ้านเพิ่มขึ้น โดยประเมินว่าหาก กู้เงิน 1 ล้านบาท ดอกเบี้ยขึ้น 0.25% จะทำให้ผู้กู้มีภาระค่าผ่อนบ้านเพิ่มเดือนละ 500 บาท อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ธอส. จะพยายามขึ้นดอกเบี้ยให้ช้าที่สุด และต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายครึ่งหนึ่ง เช่น ดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% ธอส.จะขึ้นเพียง 0.125%

รื้อระเบียบจัดซื้อจัดจ้างใหม่
อุ้มเอสเอ็มอีล้อมคอกคนฮั้ว
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ได้ปรับปรุงแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน ตามหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 845 ลงวันที่ 31 ส.ค.64 ใหม่ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการสมยอมกันในการเสนอราคา การลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งลดความผิดพลาดในการใช้ดุลพินิจในการพิจารณา โดยได้ยกเลิกแนวทางปฏิบัติดังกล่าว รวมทั้งยกเว้นการปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563

เทพันล.หนุน 8 โครงการ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือบอร์ดกองทุนดิจิทัล เห็นชอบการดำเนินงานของกองทุนฯ ตามมาตรา 26 (4) ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) จำนวน 8 โครงการ รวมวงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาด้านดิจิทัล เป็นการปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ เพื่อนำพาประเทศสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ตามวิสัยทัศน์ของนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

แอลพีจีครัวเรือนพุ่งทะยาน เวิร์กฟรอมโฮมฮิตทำอาหาร
น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันปี 64 (ม.ค-ธ.ค.) อยู่ที่ 133.15 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 3.5% เทียบกับปี 63 การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (เจท เอ 1) ลดลง 36% กลุ่มเบนซินลดลง 8.5% กลุ่มดีเซลลดลง 3.5% น้ำมันก๊าดลดลง 6.3% เพราะภาครัฐมีมาตรการจำกัดการเดินทางและปิดสถานประกอบการบางประเภทขณะที่การใช้น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 15.6% แอลพีจีเพิ่มขึ้น 7.4% และการใช้เอ็นจีวีลดลง 19.1%

ขอขายหวยทะลุ 1.03 ล้านคน
พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ยอดรับสมัครการลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิซื้อจองสลากกินแบ่งรัฐบาลประจำปี 65 ซึ่งเริ่มเปิดตั้งแต่ 1 ม.ค. และสิ้นสุดเมื่อ 31 ม.ค.65 ที่ผ่านมา มีผู้สมัครทั้งสิ้น 1.03 ล้านราย ซึ่งมากกว่าที่คาดหมายไว้จะมี 4-5 แสนราย โดยจังหวัดที่มีผู้สมัครมากสุด 5 อันดับแรก เป็นกรุงเทพมหานคร 99,772 ราย รองลงมาเป็นจังหวัดเลย 85,589 ราย นครราชสีมา 38,545 ราย นนทบุรี 27,109 ราย และขอนแก่น 26,119 ราย

จีนครองแชมป์ 'รถอีวี' ชี้ปีนี้ยอดพุ่ง 6 ล้านคัน
นายโจนาธาน ดาเวนพอร์ท ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า การ์ทเนอร์ คาดการณ์ยอดจัดส่งรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (แบบพลังงานจากแบตเตอรี่และแบบปลั๊กอิน-ไฮบริด) ในปี 65 จะเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านคัน จาก 4 ล้านคันในปี 64 แม้ว่าภาวะขาดแคลนชิปยังส่งผลกระทบต่อเนื่อง กับยอดการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปีนี้ ซึ่งรถยนต์จะมีสัดส่วนจัดส่งมอบสูงถึง 95% ของตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะแบ่งเป็น รถโดยสาร รถตู้ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ ขณะที่ประเทศจีน และยุโรปตะวันตก จะมียอดจัดส่งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าสูงสุด เนื่องจากนโยบายของภาครัฐ

ยอดค้าชายแดนทะยาน 30%
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึง สถิติการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนปี 64 ว่า มีมูลค่า 1.71 ล้านล้านบาท เพิ่ม 30.03% เฉพาะการส่งออก มูลค่า 1.03 ล้านล้านบาท เพิ่ม 34.60% และนำเข้ามูลค่า 684,015 ล้านบาท เพิ่ม 23.70% ทำให้ตัวเลขการค้าชายแดนและผ่านแดนปี 64 เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 6% มากกว่า 5-6 เท่า โดยตัวเลขส่วนใหญ่ มาจากลาวมากสุด 417,731 ล้านบาท เพิ่ม 39.31% มาเลเซีย มูลค่า 346,603 ล้านบาท เพิ่ม 42.6% เมียนมา มูลค่า 122,086 ล้านบาท เพิ่ม 109.24% กัมพูชา มูลค่า 144,910 ล้านบาท เพิ่ม 16.63% จีน มูลค่า 194,820 ล้านบาท เพิ่ม 59.71% สิงคโปร์ มูลค่า 53,853 ล้านบาท เพิ่ม 51.49% และเวียดนาม มูลค่า 46,308 ล้านบาท เพิ่ม 5.03%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น