วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 21 ธ.ค. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

ชี้ 5 ปัจจัยทองคำยังทรงตัว
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (วายแอลจี) เปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคำในปี 65 คาดว่ายังทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยราคาเคลื่อนไหวในกรอบบวกลบ 3,000 บาท จากปี 64 หรือคาดว่าปรับขึ้นไปสูงสุดประมาณ 29,800 บาท โดยเกิดจาก 5 ปัจจัยที่จะมีผลต่อราคาทองคำ ได้แก่ นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจเร่งลดการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) เพื่อเปิดทางในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง แต่การปรับลดคิวอีจะค่อยๆ ลดลงจึงไม่กระทบราคาทองคำช่วงครึ่งปีแรก

สั่งสคบ.ดูต้นทุนลีสซิ่งรถ
หวั่นสินเชื่อภูธรเจ๊งระนาว ย้ำรายใหญ่เท่านั้นกำไรสูง
นายวิสิทธิ์ พึ่งพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีไอเอ็มบีไทย ออโต้ จำกัด ในฐานะประธานกรรมการสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงร่างประกาศสัญญาของสคบ.เกี่ยวกับธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งได้รับฟังข้อเสนอและรายละเอียดต่างๆ โดยนายอนุชา ได้สั่งการให้ สคบ.ไปคำนวณต้นทุนที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไรก่อนจะนำมากำหนดอัตราเพดานดอกเบี้ยธุรกิจเช่าซื้อ เพื่อไม่ให้กระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และสินเชื่อ

ชูเงินฝากดอก 10.80% มหกรรมการเงินท้ายปี
น.ส.ภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงินมันนี่เอ็กซ์โป เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงิน กรุงเทพฯ ครั้งที่ 21 มันนี่เอ็กซ์โป จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 ธ.ค.64 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิดฟิวเจอร์ เวลธ์โดยมีธนาคาร บริษัทการเงิน นอนแบงก์ บริษัทประกัน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) และบริษัทโบรกเกอร์ทองคำ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน นำบริการทางการเงินและการลงทุนที่ครบวงจรมาให้บริการใน 6 โซน ได้แก่ โซนตลาดเงิน โซนตลาดทุน โซนประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันภัย โซนอสังหาริมทรัพย์ โซนรถยนต์ และโซนเอสเอ็มอี ไลฟ์สไตล์

ดันเพิ่มรายได้ต่อหัว 2.9 แสนบ.
นายวิโรจน์ นรารักษ์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ที่จะประกาศใช้ในปีงบ 66-70 ล่าสุดได้เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างแผนฯ ฉบับที่ 13 กลุ่มสื่อมวลชน โดยสศช. แจ้งว่า ตามเป้าหมายของแผนฯ กำหนดรายได้ต่อหัวประชากรจะต้องเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่คนไทยมีรายได้เฉลี่ย 7,216 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 238,147 บาทต่อคนต่อปี เป็น 8,800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 290,400 บาทต่อคนต่อปี ให้ได้ภายใน 5 ปี

เอสเอ็มอีคึกคักแน่ 3.2-5.4% รับอานิสงส์รัฐกระจายรายได้
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวมของภาคเอสเอ็มอี (จีดีพีเอสเอ็มอี) ปี 65 คาดการณ์ไว้ 2 กรณี กรณีแรกหากเศรษฐกิจขยายตัวดี มีการฉีดวัคซีนเพียงพอ ไม่มีการแพร่กระจายโควิด-19 รุนแรง คาดว่า จีดีพีเอสเอ็มอีจะขยายตัว 5.4% เนื่องจากภาคบริการจะกลับมาฟื้นตัวอย่างคึกคักขยายตัวประมาณ 5.82% ขณะที่ภาคก่อสร้าง จะขยายตัว 5.97% ภาคการผลิต และภาคค้าส่งค้าปลีก คาดว่า ขยายตัว 5.14% ภาคการเกษตร ขยายตัว 5.01%

ฝันคงดีทรอยต์แห่งเอเชีย ตั้งเป้าผลิตอีวี 7.25 แสนคัน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนอุตสาหกรรมก้าวหน้าที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์อัจฉริยะ ซึ่งเป็นทิศทางการผลิตของยานยนต์โลก โดยย้ำให้ไทยรักษาความเป็นดีทรอยต์แห่งเอเชีย เตรียมพร้อมเพิ่มทักษะ และปรับทักษะของภาคการผลิตของไทย สร้างนวัตกรรม เพื่อเป็นเศรษฐกิจมูลค่าสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนำไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำและแก้ปัญหามลพิษฝุ่น พีเอ็ม 2.5

หวังขอบีโอไอเกิน 5 แสนล.
น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ บีโอไอ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการลงทุนปี 65 เน้นส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่จะมีผลในวงกว้างต่อการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ครอบคลุมกิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งต้องเป็นโครงการที่มีการลงทุนจริงไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใน 12 เดือนหลังออกบัตรส่งเสริม โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้วยการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% รวม 5 ปี แต่ต้องยื่นขอรับการส่งเสริมได้ถึงสิ้นปี 65

แม่บ้านจ๊ากจ่อลอยตัวแอลพีจี
กองทุนฯ ติดลบหนัก 3 พันล้านบ.
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) คาดว่า จะพิจารณาขยายระยะเวลาการตรึงราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ต่อไปอีก 1-2 เดือน จากมติ กบง.เดิมตรึงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) มีผลถึง 31 ธ.ค.64 เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน หากมติ กบง.เห็นชอบตามแนวทางดังกล่าวจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาขยายกรอบวงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชีแอลพีจี ตรึงราคาจากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 23,000 ล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 24,000-25,000 ล้านบาท

ส่งออกพ.ย.พุ่งต่อ 24.7%
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์เปิดเผยว่าตัวเลขการส่งออกเดือน พ.ย.64 มีมูลค่า 23,647 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.7% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 นับตั้งแต่ มี.ค.2564 คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 783,425 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 22,629.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.5% เกินดุลการค้ามูลค่า 1,018.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐและการส่งออกในช่วง 11 เดือนของปี 64 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่ารวม 246,243.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.4% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 7,731,391 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่ารวม 242,315.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.4% เกินดุลการค้ารวม 3,927.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ฟิทช์คงเครดิตไทย 3 บีบวก
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.64 บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ บีบีบี+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับมีเสถียรภาพเนื่องจากมองว่าภาคการคลังสาธารณะมีความเข้มแข็งเป็นผลจากการบริหารจัดการทางการคลังอย่างรอบคอบและเป็นไปตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 เพื่อรักษาวินัยทางการคลัง

ไลน์ชอปปิงเผยยอดขาย ทะลุ 5.3 พันล้านโต 370%
นายเลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ ไลน์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 64 การชอปปิงผ่าน โซเชียลคอมเมิร์ซยังคงได้รับความนิยมและเติบโตสูงขึ้นในไทยเนื่องจาก พฤติกรรมนักช้อปคนไทย 64% ยังชอบแชตคุย สอบถามข้อมูลจากร้านค้าก่อนซื้อ โดยในส่วนของไลน์ชอปปิงหลังมีการคลายล็อกดาวน์ ก็มีร้านค้าโซเชียลทั้งเอสเอ็มอีและแบรนด์ชั้นนำทั้งของไทยและต่างประเทศเข้าสู่แพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้จะมีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นถึง 300% หรือ 300,000 ร้าน ส่งผลให้ยอดขายสินค้ารวมทั้งแพลตฟอร์ม มีมูลค่าสูงถึง 5,300 ล้านบาท เติบโต 370% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น