วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 09 ธ.ค. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

ฟอร์ดเท 2.8 หมื่นล.ลุยปิกอัพ
นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ดประเทศไทย เปิดเผยว่า ฟอร์ดประกาศการลงทุน 28,000 ล้านบาท โดยมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในไทยกว่า 25 ปี เพื่อรองรับการผลิตรถกระบะฟอร์ดเรนเจอร์ และรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) และโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) ขยายกำลังการผลิตเป็น 270,000 คัน ขายในประเทศ และส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

โวยสคบ.คุมดอกเบี้ยลีสซิ่ง
ชี้ 20% ถูกไปหวั่นเดือดร้อน ขอถก 'สุพัฒนพงษ์-อนุชา'
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้หารือและพิจารณาร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเกี่ยวกับเรื่องเช่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พบข้อกังวลด้านเพดานดอกเบี้ยรถยนต์ใช้แล้วหรือรถเก่า และรถจักรยานยนต์ รวมถึงเงื่อนไขในการคืนรถจบหนี้ โดยในร่างกำหนดให้คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 20% ที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นรอบที่สองในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ อาจทำให้ได้รับผลกระทบทั้งผู้ปล่อยสินเชื่อ ผู้บริโภค ผู้ผลิตและผู้ขาย โดยจะทำหนังสือถึงนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หารือในเรื่องนี้ด้วย

แนะซื้อหุ้นเติมพอร์ต เลิกกังวลโอไมครอน
รายงานข่าวจาก บล.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องความรุนแรงของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนและไทยพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวรายแรกซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไข ทำให้พบว่าดัชนีหุ้นไทยเริ่มปรับตัวขึ้นจากช่วงสัปดาห์ก่อน จึงแนะนำให้นักลงทุนหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นคืนเพื่อเพิ่มน้ำหนักพอร์ตลงทุน โดยเน้นหุ้นกลุ่มเปิดเมืองในตลาดทั่วโลกที่ปรับตัวลงช่วงก่อนหน้านี้ในสัดส่วน 25% และหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อาทิ กลุ่มธนาคารและไอซีที สัดส่วน 25% ขณะที่หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและการเปิดเมืองยังแนะนำให้รอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในไทย

เอกชนพร้อมจ่ายค่าสินไหม คปภ.ใช้ไม้แข็งสั่งปรับทันที
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ. ได้นำข้อร้องเรียนกรณีพ่อ-แม่ ของน.ส.พัชราภา เกรัมย์ หรือน้องหญิงที่ถูกรถเบนซ์ชนเสียชีวิต แต่บริษัทประกันฯ กลับเพิกเฉยไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทน เข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานเสนอแนวทางการกำหนดเกณฑ์ความผิดต่อเนื่องที่มีโทษปรับรายวัน เมื่อวันที่ 30 พ.ย.64 และต่อมาได้นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเปรียบเทียบ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.64 ซึ่งคณะกรรมการมีมติให้เปรียบเทียบปรับ บมจ.อาคเนย์ประกันภัย ในอัตราโทษสูงสุด 1,858,400 บาท และปรับรายวัน วันละ 20,200 บาท จนกว่าจะทำการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต

เอกชนจี้ขอของขวัญรัฐบาล
หวังดึงเศรษฐกิจปีเสือ 4.5%
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ประกอบด้วย สภาหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย (กกร.) ประจำเดือน ธ.ค. ว่า ของขวัญที่ภาคเอกชนต้องการ อยากให้ภาครัฐต่ออายุมาตรการคนละครึ่ง เฟส 4 เริ่มเดือน ม.ค.65 อีก 1,500 บาท หลังจากคนละครึ่งเฟส 3 จะสิ้นสุดมาตรการสิ้น ธ.ค.นี้ รวมทั้งฟื้นมาตรการช้อปดีมีคืนกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากทั้งสองมาตรการเป็นมาตรการที่ได้รับความนิยม สามารถกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยประชาชนได้จริง ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้

คุมใช้จ่ายเงินไฮเทคปกติ
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล หรือดิจิทัล แอสเสท (คริปโตเคอเรนซี) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังพิจารณากฎเกณฑ์มาดูแลการใช้คริปโตชำระค่าสินค้าและบริการ เป็นเรื่องปกติที่ ธปท. จะกำกับดูแล เพราะกังวลว่าจะกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินและการชำระเงิน โดยมองว่าในอนาคตแต่ละสถาบันการเงินมีแนวโน้มทำธุรกิจในเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ทั้งหมดอยู่แล้ว

เผยสินค้าเกษตร-ท่องเที่ยว โอกาสทองของเอกชนไทย
นายวราวุธ ภู่อภิญญา เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี เปิดเผยว่า ยูเออี ถือเป็นประเทศที่มีศัยภาพสำหรับธุรกิจของไทยที่จะเข้ามาทำการค้าการลงทุน เนื่องจากเป็นประเทศ ที่มีฐานะและเศรษฐกิจแข็งแกร่งในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยธุรกิจที่มีโอกาสของไทย คือ สินค้าอาหาร เกษตร และอุตสาหกรรมเกษตร เนื่องจาก ยูเออี ไม่สามารถผลิตได้เอง ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ผลไม้ นำเข้าจากอเมริกาใต้ ทั้งที่ไทยมีความได้เปรียบเรื่องเวลาการขนส่ง

เงินสะพัดวันหยุด 5.7 พันล้าน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ ระหว่างวันที่ 10-12 ธ.ค.นี้ แม้จะมีการพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอนในประเทศไทย แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมท่องเที่ยวในประเทศมากเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในระลอกก่อน หลังจากการฉีดวัคซีนในประเทศเพิ่มสูงขึ้น และคนไทยมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโควิดอยู่ในระดับที่ดีกว่าเดิม รวมทั้งการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ในปัจจุบันยังสามารถใช้ได้ดี โดยคาดว่า ในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องจะมีชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศประมาณ 1.84 ล้านคน-ครั้ง และมีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียน 5,720 ล้านบาท โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 40%

บี.กริมลุยลงทุนแสนล. บุกโรงไฟฟ้าไทย-ตปท.
นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 65 ได้ตั้งเป้าหมายใช้งบลงทุน 1 แสนล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟหรือพีพีเอ ตามแผนที่มีอยู่ปัจจุบัน และโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างเจรจาที่คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงได้ในปี 65 ทั้งโครงการสัมปทานใหม่หรือกรีนฟิลด์ และแผนการซื้อกิจการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น