สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
คลังเร่งกู้เงิน 7.2 หมื่นล้านบ.
ปิดจ๊อบพรบ.เงินกู้หมดก.ย. หวั่นถลุงกันเพลินนอกกรอบ
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของเดือนก.ย.64 กระทรวงการคลังมีแผนจะเร่งกู้เงินในส่วนของ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพิ่มเติมอีก 72,313 ล้านบาท เพื่อให้มีวงเงินกู้ครบถ้วนตามกรอบโครงการที่ได้รับการเห็นชอบจาก ครม. วงเงิน 980,826 ล้านบาท หรือคิดเป็น 98% ของวงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เนื่องจากในเดือน ก.ย.นี้ จะเป็นเดือนสุดท้ายที่คลังมีอำนาจกู้เงินได้ตามที่กฎหมายระบุไว้ ส่วนการกู้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงินฉบับใหม่ 5 แสนล้านบาท คลังได้เริ่มทยอยกู้ไปแล้ว 7.4 หมื่นล้านบาท
เลิกทำสวยหันดูแลสุขภาพ
นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามิน ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดความงามปีนี้ยอดขายลดลง 40% และยอดซื้อต่อบิลมีแนวโน้มลดลงเหลือเพียงเฉลี่ย 1,500-1,800 บาท จากเดิม 2,200 บาท สะท้อนถึงภาพรวมเศรษฐกิจยังคงถดถอย และประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายต่อเนื่อง แต่กลับพบว่าสินค้าที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสุขภาพที่จำเป็น อาทิ คอลลาเจน วิตามิน และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เนื่องจากผู้บริโภคต้องการมีสุขภาพรวมไปถึงภูมิคุ้มกันที่ดีทิศทางเดียวกับข้อมูลยูโรมอร์นิเตอร์ ที่ล่าสุดระบุว่าตลาดวิตามินและเสริมอาหารปี 63 มีมูลค่า 25,269 ล้านบาท เติบโต 8%
หนี้เน่าแห่เข้าคลินิกให้ช่วย ยอดรวมเกือบ 5 พันล้านบ.
นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการคลินิกแก้หนี้ตั้งแต่เปิดโครงการปี 60 จนถึงวันที่ 31 ส.ค.64 มีลูกหนี้ที่มีปัญหาเข้าร่วมโครงการแก้หนี้แล้ว 20,987 คน คิดเป็น 65,478 บัญชี มีภาระหนี้เงินต้น 4,993 ล้านบาท โดยเฉลี่ยเป็นหนี้ต่อราย 237,912 บาท ซึ่งคุณสมบัติจะต้องเป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (เอ็นพีแอล) หรือค้างชำระ 91-120 วันขึ้นไปประเภทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน หนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท
จี้ใช้เงิน 4 แสนล.กระตุ้นศก.
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท. สนับสนุนแนวทางของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ที่เตรียมงบประมาณ 4 แสนล้านบาท เพื่ออัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งควรเร่งใช้เงินภายในสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกันควรเร่งเตรียมหาเงินกู้สำรองไว้อีก 1 ล้านล้านบาท เพื่อดึงมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในต้นปี 65 ให้ต่อเนื่องเพื่อเร่งผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 65 ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น