วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 08 ก.ย. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

เงินไฮเทคพุ่ง 1.37 ล้านบัญชี
คาดหน้าใหม่แห่ร่วมวง 42% แนะเพิ่มความรู้ก่อนหายนะ
รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า นักลงทุนคนไทยที่เป็นรายย่อยสนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล (คริปโตเคอเรนซี่) เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันจำนวนบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยทั้งหมด 1.37 ล้านบัญชี น้อยกว่าบัญชีซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 2.1 เท่า แต่อัตราการขยายตัวสูงถึง 27.6% ต่อเดือน ขณะที่บัญชีซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มีอัตราการเติบโตเพียง 2.9% ต่อเดือน แต่ความเสี่ยงยังมีอยู่มาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสร้างความรู้ความเข้าใจตลาดคริปโตฯ ลดความสูญเสียโดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ เช่น เพิ่มแหล่งเรียนรู้สื่อกลาง เพราะความรู้ทางการเงินดิจิทัลจะช่วยให้คนไทยนำไปสู่การใช้เงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางและนวัตกรรมทางการเงินในอนาคตด้วย

รร.จุกเหลือเงินไม่ถึงเดือน
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม ประจำเดือน ส.ค.64 ว่า ผู้ประกอบการที่พักแรมยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่องสะท้อนจากอัตราการเข้าพักยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำอีกทั้งการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มแย่ลง ส่วนใหญ่มีสภาพคล่องลดลงมากส่งผลให้ผู้ประกอบการมากกว่าครึ่งหนึ่งอาจต้องปิดกิจการชั่วคราวเพื่อลดต้นทุนหากโควิดยืดเยื้อกว่าที่ประเมินไว้

หมีขาวหนีหนาวเที่ยวไทย
น.ส.ขนิษฐา พันธุ์วรวัฒน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานมอสโก ประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับสัญญาณที่ดีว่า นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียหลายรายสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะในเดือนก.ย.นี้ จะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวรัสเซียส่วนใหญ่เริ่มเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศ โดยจากการสอบถามจากสถานทูตไทย พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นมา หลังจากคณะกรรมการด้านวิชาการ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อพ.ศ.2558 ได้เห็นชอบในหลักการให้รับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนสปุตนิก วี สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ ก็เริ่มมีชาวรัสเซียยื่นขอหนังสืออนุญาตการเดินทางเข้าประเทศไทย (ซีโออี) เฉลี่ยวันละ 100 รายแล้ว

'บีวอลเลท' จ่ายทั่วโลก
นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่าธนาคารร่วมกับยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนลและไทย เพย์เมนท์ เน็ตเวิร์ค เปิดบริการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยยูเนี่ยนเพย์ คิวอาร์โค้ด บาย แบงค็อกแบงก์ ผ่านแอพพลิเคชั่นบีวอลเลท สแกนจ่ายเงินที่ร้านค้าเครือข่ายยูเนี่ยนเพย์กว่า 30 ล้านแห่ง ใน 45 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และไต้หวัน เป็นต้น เริ่มให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย.64 เป็นต้นไปซึ่งใช้จ่ายซื้อสินค้าต่างประเทศผ่านออนไลน์ได้ด้วยและจะขยายใช้งานด้วยโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารกรุงเทพต่อไป

หุ้นทิพยโฮลดิ้งส์พุ่ง 18.75% ปักธงผู้นำประกันในอาเซียน
นายสมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ TIPH เปิดเผยหลังหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก ว่าทิพย กรุ๊ป โฮล ดิ้งส์ วางแผนขยายการลงทุนธุรกิจประกันภัยไปต่างประเทศมากขึ้น และตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำธุรกิจประกันภัยในภูมิภาคอาเซียน โดยขณะนี้ได้เข้าไปลงทุนใน สปป.ลาวแล้ว และต่อไปมีแผนลงทุนต่อในกัมพูชาและเมียนมา ซึ่งได้มีการศึกษาไว้บ้างแล้ว ส่วนการลงทุนในเวียดนามจะเข้าไปร่วมทุนกับบริษัทประกันภัยในเวียดนาม

แฉบุหรี่เถื่อนเกลื่อนเมือง
จี้ปราบจริงจังหวั่นสูญ 4 พันล.
นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้รับร้องเรียนจากร้านค้าเกี่ยวกับปัญหาบุหรี่เถื่อนหนีภาษีจำนวนมาก ทำให้ร้านค้าที่ถูกกฎหมายได้รับผลกระทบจำหน่ายสินค้าไม่ได้ เพราะนอกจากการล็อกดาวน์แล้ว ยังมีปัญหาบุหรี่เถื่อนที่เข้ามาอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้พบว่ามีเครือข่ายลักลอบนำเข้าบุหรี่เติบโตอย่างไม่เกรงต่อกฎหมาย โดยมีการลำเลียงนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบกและทางทะเลอย่างต่อเนื่อง เช่น สตูล-หาดใหญ่ เป็นพื้นที่หลักของสินค้าเถื่อน

ชู 'สมาร์ทปาร์ค' ดูดลงทุน
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ได้เร่งเดินหน้าโครงการสำคัญๆ เช่น โครงการนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ค ที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 67 ตามแผนที่วางไว้เพื่อดึงดูดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย แบ่งพื้นที่รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ 301.70 ไร่ อุตสาห กรรมการแพทย์ 182.84 ไร่ อุตสาหกรรมดิจิทัล 163.93 ไร่ และอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ 75.17 ไร่ โดยผลประโยชน์ทางตรงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังเริ่มมีการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม สมาร์ทปาร์ค คือ การสร้างมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในประเทศต่อปีอยู่ที่ 53,000 ล้านบาท

เผยเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง มาแรงทั่วโลกรับคนล้น
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ทำการศึกษาสินค้าเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงโดยพบว่าเป็นสินค้าใหม่ที่กำลังมาแรงในตลาดโลกและมีแนวโน้มเติบโตสูง เพราะปัจจุบันทั่วโลกได้ให้ความสำคัญกับการผลิตอาหารเพื่อป้อนความต้องการของประชากรที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอาหารจากเนื้อสัตว์ที่การผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงได้มีการเร่งศึกษาวิจัยและพัฒนาเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง เพื่อตอบสนองความต้องการเพิ่มมากขึ้น

เคาะงบกลาง 2.9 พันล้าน ดันศก. 10 จังหวัดเข้มแข็ง
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นประจำปีงบประมาณ 64 เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 3 จำนวน 1,766 โครงการ วงเงินรวม 2,909 ล้านบาท ดำเนินการใน 10 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดแพร่ พิษณุโลก ตาก สุโขทัย ร้อยเอ็ด สุรินทร์ อำนาจเจริญ พระนครศรีอยุธยา ปราจีนบุรี และ สระแก้ว เพื่อให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ต่อไป

เฮรง.ซื้ออ้อยสดต่ออีก 1 ปี
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ประกาศต่ออายุการรับประกันราคารับซื้ออ้อยสดเข้าหีบในฤดูการผลิตปีถัดไป หรือปี 65/66 ที่ราคาขั้นต่ำ 1,000 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับค่าความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส.ต่ออีก 1 ปี และหากราคาตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น จะพิจารณาปรับราคาอ้อยเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับทิศทางราคา เนื่องจากต้องการสร้างความเชื่อมั่นในด้านราคาให้ชาวไร่ เพื่อวางแผนขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มผลผลิตอ้อยได้มากขึ้น

ซื้อของไทยต่อลมเอสเอ็มอี
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการเมด อิน ไทยแลนด์ หรือเอ็มไอที เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศหันมาใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศผ่านระเบียบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่มีวงเงินกว่า 1.3 ล้านล้านบาทต่อปีว่า ล่าสุด 6 เดือนที่ผ่านมา หรือ ม.ค.-มิ.ย. ได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนสินค้าเอ็มไอทีให้แก่ผู้ประกอบการแล้วกว่า 2,000 ราย โดยกรมบัญชีกลางแจ้งว่ามีผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียน 52% สามารถยื่นเสนองานต่อภาครัฐได้แล้วคิดเป็นมูลค่ากว่า 68,000 ล้านบาท ครอบคลุมสินค้าหลากหลายทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวมไปถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คาดว่าสิ้นปี 64 จะมีผู้ประกอบการเข้ามาลงทะเบียนกว่า 5,000 ราย มีจำนวนสินค้าให้เลือกมากกว่า 50,000 รายการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น