สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
แบงก์ใหญ่ไล่ฮุบไฟแนนซ์
เร่งรุกหนักบริการเงินดิจิทัล กรุงศรีฯ กินรวบ 'เอสเอชบีฯ'
รายงานข่าวจากแวดวงการเงิน เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ประกาศเข้าซื้อกิจการเอสเอชบี ไฟแนนซ์ เป็นบริษัทสินเชื่อรายย่อย โดยกรุงศรีจะเข้าซื้อก่อน 50% และจะซื้อส่วนที่เหลืออีก 50% ครบ 100% หลังจาก 3 ปีนี้ รวมเป็นเงินกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนของกรุงศรีปี 64-66 ที่ต้องการขยายธุรกิจการเงินไปบริการลูกค้าทั่วทั้งอาเซียน หลังจากปีที่ผ่านมากรุงศรีได้เข้าซื้อกิจการบริษัท เอสบี ไฟแนนซ์ คอมปานี อิงค์ (เอสบีเอฟ) ธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในฟิลิปปินส์ ในสัดส่วน 50% จากซีเคียวริตี้ แบงก์ คอร์ปอเรชั่น สถาบันการเงินจากฟิลิปปินส์ โดยมีแผนลงทุนคลาวด์เทคโนโลยี ด้วยเงินลงทุน 1,950 ล้านบาท เพื่อปฏิรูปดิจิทัลให้กับเอสบีเอฟในฟิลิปปินส์
เจมาร์ทแจงร่วมทุนบีทีเอส
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือเจมาร์ท แจ้งกับ ตลท.ว่า ตามที่มีกระแสข่าวกลุ่มเจ มาร์ทจะเข้าร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ขอชี้แจงว่าข่าวดังกล่าวมีเนื้อหาที่ไม่ถูกต้อง และไม่ชัดเจนในหลายประเด็น แต่บริษัทได้อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยต้องนำเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่ออนุมัติรายละเอียดของธุรกรรม แต่การอนุมัติดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับความเห็น และการอนุมัติของคณะกรรมการ และผู้ถือหุ้น และหากมีธุรกรรมดังกล่าวจะไม่เข้าข่ายธุรกรรมที่จะดำเนินการเรื่องคำเสนอซื้อตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทั้งนี้หากบริษัทมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวแล้วจะแจ้งสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในเวลา 09.00 น. ของวันทำการซื้อขายถัดไปตามเกณฑ์การแจ้งสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์
ดันปีแห่งการประชุมฟื้น 'ไมซ์'
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยทิศทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 65 ว่า อุตสาหกรรมไมซ์มีโอกาสฟื้นตัวได้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลง โดยทีเส็บได้ประกาศให้ปี 65-66 เป็นปีแห่งการประชุมในประเทศไทยผ่านการส่งเสริมการจัดประชุมสัมมนาในประเทศและการเร่งดึงงานสำคัญระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทยในรูปแบบต่างๆ เพื่อดึงรายได้ของอุตสาหกรรมไมซ์กลับมาอีกครั้ง หลังจากในปี 62 ไทยเป็นเบอร์หนึ่งของอาเซียน โดยมีรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมมากถึง 5 แสนล้านบาท แต่เมื่อเกิดโควิดขึ้นทำให้สูญเสียรายได้ไปมากถึง 70%
ศรีตรังบุกแดนลอดช่อง
น.ส.จริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ เอสทีจีที เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อจัดจำหน่ายถุงมือยางและบริหารงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทั้งในด้านการผลิตและพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ ของกลุ่มบริษัทฯ สู่ระดับสากลและรองรับการขยายตลาดต่างประเทศสอดรับกับแผนงานมุ่งลงทุนขยายกำลังการผลิตถุงมือยางให้ได้ปีละ 80,000 ล้านชิ้นในปี 67 และเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 100,000 ล้านชิ้นในปี 69
รร.เชื่อท่องเที่ยวฟื้นได้ เท 1.9 พันล.ผุดวีนแยทท์
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป เปิดเผยว่าขณะนี้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมเชื่อมั่นว่าในระยะยาวอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยยังมีศักยภาพกลับมาเติบโตได้อีกครั้งหลังจากผ่านช่วงของวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงปี 63 จนถึงปัจจุบัน เพราะที่ผ่านมาการท่องเที่ยวของไทยมีจุดแข็งและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ในอนาคต ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับไอเอชจี โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ใช้เงินลงทุนกว่า 1,900 ล้านบาท เปิดตัวแบรนด์โรงแรมใหม่ภายใต้ชื่อแบรนด์เดอะ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น แห่งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่ในโครงการอควอทีค คอมเพล็กซ์บริเวณเมืองพัทยา คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงต้นปี 67 เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวและการเดินทางเพื่อธุรกิจในช่วงหลังจากผ่านการระบาดของไวรัสโควิดไปแล้ว ทั้งนี้เดอะ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น ถือเป็นหนึ่งในโครงการอควอทีค ซึ่งในพื้นที่จะประกอบไปด้วยโรงแรม ร้านค้าและศูนย์รวมร้านอาหารและพื้นที่ประชุมโดยโรงแรมมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และมีสไตล์เฉพาะตัว
ปั้นไทยแลนด์ผลิต 'ดาวเทียมโลก'
นายชนินทร์ ขาวจันทร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้บีโอไอกำลังหารือกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า ร่วมมือทำนโยบายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมอวกาศ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นแหล่งผลิตดาวเทียมของโลกในอนาคต เนื่องจากพบว่าอุตสาหกรรมดาว เทียมที่อยู่เหนือพื้นโลกระยะ 200 กิโลเมตร กำลังมาแรงจะถูกนำมาใช้งานเพิ่มขึ้นในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งไทยมีฐานการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ รองรับ น่าจะขยับไปสู่ดาวเทียม อากาศยานในระยะยาวได้
ยักษ์ใหญ่แห่เข้าอี-เซอร์วิส
ชี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์จากต่างประเทศ ที่ไม่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในประเทศไทยและมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี เข้ามาจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ตามกฎหมายอี-เซอร์วิส กับสรรพากรแล้ว 49 ราย จาก 15 ประเทศ โดยมีทั้งรายเล็กรายใหญ่ประกอบกัน โดยมีรายใหญ่ที่คนไทยรู้จักดี เช่น เน็ตฟลิกซ์ กูเกิล เฟซบุ๊ก ไมโครซอฟท์ ซูม อเมซอน ส่วนรายอื่นยังไม่ได้รับการยืนยันแต่คาดว่าจะทยอยเข้ามายื่นจดทะเบียนเช่นกัน เพื่อให้เริ่มเก็บภาษีได้ทันวันที่ 1 ก.ย.นี้
เปิดขุมทรัพย์ให้เอสเอ็มอี ตลาดจีน-อินเดีย-บาห์เรน
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ร่วมจัดโครงการพัฒนาศักยภาพและช่องทางการตลาดเชิงลึกสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าสู่ตลาดจีน อินเดียและบาห์เรน ให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดทั้ง 3 ประเทศนี้ เพิ่มช่องทางการเปิดตลาดใหม่ๆ ช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 เนื่องจากทั้ง 3 ตลาดมีขนาดใหญ่ โดยจีนเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงขึ้นเรื่อยๆ และเป็นประเทศที่ฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 ได้เร็วที่สุด สินค้าที่มีศักยภาพ คือกลุ่มของผลไม้ พืชผัก ผลิตภัณฑ์ยางไปจนถึงเครื่องจักรต่างๆ
ซิตี้ใช้บิ๊กดาต้าเช็กลูกค้า รับคนใช้โมบายแบงกิ้ง
นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารพัฒนาระบบบิ๊กดาต้า เพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ผลิตภัณฑ์ บริการ เพื่อตอบรับลูกค้า และพัฒนาฟีเจอร์ รวมทั้งบริการต่างๆ บนซิตี้โมบายแอพพลิเคชั่น เช่น ใช้โอนเงินจากบัตรเครดิตเข้าบัญชีออมทรัพย์, เปลี่ยนยอดใช้จ่ายเป็นยอดแบ่งชำระรายเดือน และซื้อขายกองทุนรวมของลูกค้าที่มีเงินลงทุนกับธนาคาร
เลื่อนอีกโรงไฟฟ้าชุมชน
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. มีมติเห็นชอบปรับเลื่อนกรอบระยะเวลาในการพิจารณาข้อเสนอโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) พ.ศ.2564 ใหม่ส่งผลให้ต้องเลื่อนประกาศผลการพิจารณาผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการเป็นวันที่ 23 ก.ย.64 จากเดิมในวันที่ 2 ก.ย.64 ล่าช้าไป 21 วัน เนื่องจากต้องการขยายเวลา และเปิดให้ผู้ที่ไม่อุทธรณ์ผลการพิจารณาทางเทคนิค 33 ราย ได้รับการพิจารณาภายใต้หลักการและแนววินิจฉัยเดียวกับการพิจารณาอุทธรณ์ของ กกพ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น