วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 26 ส.ค. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

ยกฐานะทีทีบีขึ้นแบงก์ใหญ่
น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังการควบรวมของธนาคารทหารไทย และ ธนาคารธนชาต เสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 5 ก.ค.64 ทำให้ธนาคารมีขนาดใหญ่ขึ้น มีการทำธุรกรรมเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินอื่นมากขึ้น รวมทั้งมีการให้บริการทางการเงินที่สำคัญทั้งสินเชื่อ เงินฝาก การโอนเงินชำระเงินในปริมาณที่สูงและมีลูกค้าจำนวนมาก ส่งผลให้ธนาคารทหารไทยธนชาตเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (ดี-ซิบ) เพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งในปีนี้

เล็งเชือดแพลตฟอร์มฮิต
ร้านค้า-ส่งอาหาร-ขนส่ง ผูกขาดตลาดโขกผู้บริโภค
นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้ากำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์การแข่งขันทางการค้า ในกลุ่มธุรกิจให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ 3 กลุ่มอย่างใกล้ชิด ได้แก่ แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ แพลตฟอร์มส่งอาหารออนไลน์ และแพลตฟอร์มบริการขนส่ง หลังพบว่ามีการเติบโตก้าวกระโดด และมีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายการใช้อำนาจเหนือตลาดมากขึ้น ตลอดจนยังได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมเพิ่ม

ล้อมคอก 'เงินไฮเทค' หวั่นโยกทรัพย์หากำไร
รายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นแนวทางการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้าในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึงการเก็บรักษาเงิน และการนำทรัพย์สินของลูกค้าไปจัดหาประโยชน์ให้แก่ลูกค้า เพื่อยกระดับการให้ความคุ้มครองแก่ผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

ทั่วโลกร่วมไทยแลนด์โฟกัส ตลาดทุนแกร่งล้มแล้วลุกไว
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทุนไทยขณะนี้ยังเป็นตลาดที่เข้มแข็งและสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยได้ เนื่องจากล้มแล้วสามารถลุกได้ไวเห็นได้จากการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนช่วงครึ่งแรกของปี 64 นี้ ที่เติบโตขึ้นจากจุดต่ำสุดเมื่อปี 63 ที่เริ่มเกิดวิกฤติโควิดขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดแม้ช่วงไตรมาส 2 จะชะลอตัวเล็กน้อยจากผลกระทบโควิด-19 รอบ 3 มีบริษัทจดทะเบียนไทยถึง 47% ที่ทำตลาดทั้งในและต่างประเทศซึ่งสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ อาทิ กลุ่มเกษตร อาหาร ปิโตรเคมี พลังงาน เป็นต้น

ขุนคลังชี้รัฐบาลพร้อมทุ่ม
หวังฟื้นศก.ปีหน้าโต 4-5%
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาเรื่องสร้างความพร้อมประเทศไทย สู่โอกาสทางเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19 ในงานไทยแลนด์ โฟกัส 2021 ว่า ในปี 65 รัฐบาลจะทุ่มสรรพกำลังและทรัพยากรเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยใช้โมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัส ที่ตอนนี้ขยายไปครอบคลุมนักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่น การระบาดที่ลดลงจะทำให้รัฐบาลหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 4-5% ในปีหน้า

อัด 1.2 พันล.อุ้มรายย่อย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบจัดสรรเงินกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ประจำปี 65 จำนวน 1,224.8 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย (ไมโครเอสเอ็มอี) ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาให้อยู่รอดหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และช่วยบรรเทาปัญหาพร้อมทั้งฟื้นฟูธุรกิจ พร้อมกับสร้างความพร้อมให้เอสเอ็มอีเข้าสู่การแข่งขันได้ต่อไป

เผยไทยเสี่ยงติดกับดักหนี้ วัดใจแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ประเมินแนวโน้มที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมีความเป็นไปได้กว่า 40% ซึ่งยังก้ำกึ่งว่าจะลดหรือไม่ หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบล่าสุดได้มีกรรมการ 2 ท่านให้ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% แต่การลดดอกเบี้ย ผลประโยชน์จะกระจุกแค่บางกลุ่ม เช่น กลุ่มกู้เงินมีความน่าเชื่อถือสูงระดับ ทริปเปิ้ลเอ และที่มีคุณภาพสินเชื่อที่ดีอย่างภาคการคลัง ลดต้นทุนการคลังได้

ปฏิเสธเงินกู้-เลิกจองรถพุ่ง
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน ก.ค. มี 52,442 คัน ลดลง 11.62% ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากศูนย์โชว์รูมรถยนต์ แจ้งว่า มีลูกค้าได้ยกเลิกการจองรถ รวมทั้งเลื่อนการรับรถออกไปเป็นจำนวนมาก หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ช่วงกลาง ก.ค. ที่ผ่านมา รวมทั้งสถาบันการเงินมีความเข้มงวดอนุมัติสินเชื่อ ถูกปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 50% จากช่วงปกติถูกปฏิเสธเพียง 5-10% เท่านั้น

การ์ดสะสมสินค้ายอดฮิต 'อีเบย์' อุ้มไทยขายทั่วโลก
นางรินทร์ลิตา ศรีโรจนภิญโญ หัวหน้าฝ่ายการตลาด อีเบย์ ประเทศไทย ผู้ให้บริการแพลต ฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ระดับโลก เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทั่วโลก ทำให้คนต้องอยู่ในบ้านมากขึ้น จึงหันมาเลือกซื้อของออนไลน์ ส่งผลให้ตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกกลับมีศักยภาพการเติบโต ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 64 อีเบย์มีผู้ซื้อทั่วโลกมากกว่า 159 ล้านคน และมีผู้ขายกว่า 19 ล้านคน ลงขายสินค้ามากกว่า 1,500 ล้านรายการ โดยมียอดการใช้จ่ายมากกว่า 22,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 730,000 ล้านบาท โดยความต้องการสินค้าเฉพาะกลุ่มในอีเบย์นั้นเพิ่มขึ้นสูงมากในปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะการ์ดสะสม เช่น การ์ดกีฬา การ์ดเกม และการ์ดโปเกมอน ที่มีการขายไปแล้วมากกว่า 45 ล้านใบในปี 63 หรือขายออกสูงถึงกว่า 90 ใบใน 1 นาที ส่วนกลุ่มสินค้าที่ขายดี ได้แก่ กลุ่มอะไหล่ยนต์ อุปกรณ์วิดีโอเกม รองเท้าผ้าใบ และของสะสมลักซ์ชัวรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น