วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 13 ส.ค. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน 

โควิดยังไม่พีค-วัคซีนช้ากดหุ้นไทย
โบรกเกอร์ชี้'เหนื่อย'ไปต่อไม่ไหว การเมืองกระทบบ้างยังไร้น้ำหนัก
โบรกฯชี้หุ้นไทยยังเหนื่อย ไปต่อไม่ไหว โควิดระอุ-วัคซีนล่าช้า ยังหาจุดพีคไม่เจอ ฉุดเศรษฐกิจหดตัวยาว การเมืองแค่เรื่องกวนใจ

'โอสถสภา'ฝ่าโควิด รายได้Q2โต17% แจกปันผลงวดครึ่งปี
นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า รายได้จากการขายในไตรมาส 2/64 เพิ่มขึ้น 17% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีรายได้ 6,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ผลจากการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจหลัก ผลักดันการเติบโตในต่างประเทศรวม 76% ส่วนในประเทศ บริษัทยังคงเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มีส่วนแบ่งตลาด 55% เพราะออกผลิตภัณฑ์ที่จับเซ็กเมนต์ใหม่ตอบสนองเทรนด์ของตลาด ขณะที่กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอล ดริงก์ยังเติบโตต่อเนื่อง มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 37% และยังรับรู้รายได้จากการกระจายสินค้าเครื่องดื่มวิตามินของกลุ่มยันฮี รวมถึงกลับมาเดินเครื่องจักรของโรงแก้วหลังปิดปรับปรุงเมื่อไตรมาสก่อน อีกทั้งบริหารจัดการต้นทุนได้ต่อเนื่อง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัว ทำกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 1,824 ล้านบาท เติบโต 5%

'เซ็นทารา'ตุนวงเงินกู้8.3พันล้าน ตั้งรับศก.ผันผวนลุยธุรกิจยาวข้ามปี
รายงานข่าวจากบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้เทียบช่วงเดียวกันปี 2563 มีรายได้รวม 2,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% มีกำไรขั้นต้น 1,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 55% ของรายได้ ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน อยู่ที่ 57% อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186 ล้านบาท หรือ -40% เทียบปีก่อน และรวมครึ่งปีแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 5,463 ล้านบาท ลดลง 1,475 ล้านบาท หรือลดลง 21% มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 1,127 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 652 ล้านบาท หรือ -137% เทียบปีก่อน ส่วนสภาพคล่อง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ดีขึ้นจากสิ้นปี 2563 เป็น 0.7 เท่า อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้นลดลงเป็น 1.2 เท่า และจากความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของธุรกิจ บริษัทได้จัดเตรียมวงเงินกู้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่สามารถเบิกถอนได้ประมาณ 8,300 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอสำหรับการดำเนินงานภายใต้ความผันผวนของธุรกิจถึงไตรมาส 4 ปี 2565

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น