วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 23 ก.ค. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

ผวาพิษโควิดดึงศก.ติดลบ
จี้รัฐใช้เงินกู้ 5 แสนล้านด่วน ย้ำเงินทุกบาทต้องใช้ถูกจุด
รายงานข่าวจากสำนักวิจัยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 64 จาก 1.5% เหลือ 0.5% เนื่องจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 อาจยืดเยื้อ และหากจำเป็นต้องล็อกดาวน์ที่ยาวนานกว่า 3 เดือน หรือต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่มีข้อจำกัดมากขึ้น กระทบต่อภาคการผลิตและการส่งออกคาดว่าเศรษฐกิจไทยติดลบได้ 0.8%

แห่แตกไลน์ผลิตน้ำสมุนไพร
น.ส.ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็ปเป้ เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ปี 64 คาดว่ามีมูลค่า 197,000-199,000 ล้านบาทเติบโต 0.5-1.5% โดยกลุ่มที่ยังโตมากที่สุดคือเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริ๊งค์ที่ปี 63 เติบโต 9-11% ต่อเนื่องมาถึงครึ่งปีแรกนี้สวนกระแสกำลังซื้อที่ชะลอตัวช่วงโควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องสเปเชียลตี้ที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ น้ำผสมวิตามิน เครื่องดื่มวิตามิน เนื่องจากดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่ยังมีกำลังซื้อและต้องการทดลองเครื่องดื่มใหม่ๆ ได้

7 บริการช่วยส่งออก-นำเข้า ประคองเอกชนฝ่าโควิด 19
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ออก 7 มาตรการอำนวยความสะดวกทางการค้าและขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำเข้า-ส่งออกสินค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และไร้อุปสรรค โดยมีการขยายเวลาวันหมดอายุสำหรับบัตรประจำตัวผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้า และบัตรประจำตัวผู้รับมอบอำนาจที่จะหมดอายุในช่วงวันที่ 1 ส.ค.- 31 ธ.ค.64 ออกไปอีก 5 เดือนโดยอัตโนมัติ

บสย.พักหนี้ 6 เดือน ช่วยต่อลมเอสเอ็มอี
นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย. ได้ออกมาตรการต่อลมหายใจธุรกิจเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกอบธุรกิจที่ใช้บริการค้าประกันสินเชื่อกับ บสย. ตามนโยบายและมาตรการของรัฐ โดยมีมาตรการช่วยเหลือทั้งสิ้น 3 แนวทาง ประกอบด้วยมาตรการพักชำระค่าธรรมเนียม 2 เดือน ผ่อนปรนขยายระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมค้าประกันสำหรับลูกค้าปัจจุบัน บสย. ทุกประเภทโครงการค้าประกัน ทุกกลุ่มธุรกิจ ทั่วประเทศที่ครบกำหนดชำระค่าธรรมเนียมการค้าประกันสินเชื่อในระหว่างวันที่ 1 ส.ค.64-30 ก.ย.64

กยศ.เด็ด! หักหนี้แค่ 10 บาท
แถมให้กู้ยาว 30 ปีอุ้ม 2.2 ล้านคน
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด โดยจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ ปรับเปลี่ยนลำดับตัดชำระหนี้ และเปลี่ยนเงื่อนไขการผ่อนชำระสำหรับผู้กู้ยืมกลุ่มก่อนฟ้องคดี เพื่อช่วยผู้กู้ยืมที่ค้างชำระและลดปัญหาหนี้ค้างชำระของกองทุน โดยแนวทางดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือผู้กู้ยืมได้มากกว่า 2.2 ล้านคน

ดัน 8 ชุมชนนำร่องเที่ยวไทย
น.อ.อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า อพท. ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทำการวิจัยโครงการการยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์สู่ตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยเตรียมนำร่อง 8 ชุมชน ที่พร้อมเป็นต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์ เพื่อรองรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงภายหลังภาวะวิกฤติโควิด-19 นำไปสู่ช่องทางการตลาดให้กับชุมชนใน 4 ภาค ให้มีความพร้อมที่จะรองรับการท่องเที่ยวในรูปแบบวิถีใหม่อีกครั้ง

ชงตั้งกองทุนฟื้นฟูหนี้เน่า สอท.ปรับเป้าผลิตรถยนต์
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับ 24 องค์กรภาคีเครือข่ายพันธมิตร ถึงมาตรการที่ต้องการให้ภาครัฐเร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหลังจากเอสเอ็มอีจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยต้องการให้รัฐเร่งช่วยเหลือใน 6 มาตรการ เพื่อประคองให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านพ้นวิกฤตินี้ได้

สั่งคุมมาตรฐานตู้เก็บวัคซีน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) มีมติเห็นชอบมาตรฐานรวมทั้งสิ้น 48 มาตรฐาน ซึ่งมีมาตรฐานสำคัญๆ เช่น มาตรฐานตู้เก็บวัคซีน เครื่องจักรกลการเกษตร สุราแช่ สุรากลั่น ทีวี สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ สุขภัณฑ์เซรามิก คอนกรีตบล็อก กล้องติดรถยนต์ และเครื่องยนต์ก๊าซโซลีนขนาดเล็ก โดยเฉพาะมาตรฐานตู้เก็บวัคซีน ได้เร่งให้สมอ. ดำเนินการประกาศใช้มาตรฐานโดยเร็วที่สุด เพื่อรองรับปริมาณความต้องการของโรงพยาบาลและหน่วยงานทางการแพทย์ในการเก็บรักษาวัคซีน คงคุณภาพของวัคซีนก่อนที่จะนำไปฉีดให้กับประชาชน

เก็บส่วนต่างค่าน้ำตาลทราย ส่งกองทุนฯ บริหารเป็นธรรม
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจำหน่ายน้ำตาลทรายเพื่อใช้บริโภคในราชอาณาจักร ตามร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจำหน่ายน้ำตาลทรายเพื่อใช้บริโภคในราชอาณาจักร โดยให้มีการจัดเก็บเงินส่วนต่างจากการจำหน่ายน้ำตาลทรายในประเทศของโรงงานส่งให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย และนำเงินมาบริหารจัดการให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างโรงงาน โดยให้เริ่มใช้บังคับตั้งแต่ฤดูการผลิตปี 63/64 เป็นต้นไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น