วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 06 ก.ค. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ร้านอาหารเจ๊งหนัก 7 หมื่นล.
แนะรัฐจ่ายค่าเช่าที่-น้ำ-ไฟฟ้า จี้ทยอยใช้มาตรการให้ปรับตัว
รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ได้ประเมินธุรกิจร้านอาหาร หลังจากภาครัฐมีมาตรการห้ามนั่งทานอาหารในร้าน 30 วัน ครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารอย่างมาก คาดว่ามูลค่าธุรกิจนี้จะเสียหาย 55,000-70,000 ล้านบาท เหลือเพียง 3.35-3.5 แสนล้านบาทในปี 64 แม้ 1-2 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการร้านอาหารจะพยายามปรับตัวอย่างสุดความสามารถ และภาครัฐได้มีการออกนโยบายช่วยเหลือเบื้องต้น แต่ผลกระทบต่อเนื่องที่สะสมได้สร้างความบอบช้าอย่างมากต่อธุรกิจร้านอาหาร และยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ภาครัฐอาจมีความจำเป็นในการที่จะควบคุมการระบาดของโรคโควิดเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้

รุกขยายร้านค้ารับรูดปื๊ด
นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.64 ธนาคารกรุงเทพได้ลงนามความร่วมมือกับ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ขยายเครือข่ายร้านค้ารับบัตรทั่วประเทศ ซึ่งจากความร่วมมือจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านบริการร้านค้ารับบัตรของธนาคารกรุงเทพให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นและครบวงจร ทั้งยังถือเป็นธนาคารแรกในประเทศไทยที่สามารถรองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตแบรนด์หลักได้ครบทุกแบรนด์และมีรูปแบบการชำระเงินที่หลากหลาย นอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจกิจแล้ว ยังสอดรับพฤติกรรมยุคนิวนอร์มัลที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งรับนโยบายสังคมไร้เงินสด

ตปท.ถือหุ้นไทยต่ำสุด 25%
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 64 นี้ คาดว่า นักลงทุนต่างชาติจะทยอยกลับเข้ามาลงทุนในไทยและส่งผลให้สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเพียง 25% ซึ่งเป็นการถือครองต่ำสุดนับแต่ปี 55 ที่เคยมีสัดส่วนสูงสุดประมาณ 37-38% โดยสัดส่วนจะปรับขึ้นเท่าใด ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการวัคซีนที่เชื่อว่าหลังจากนี้มีการฉีดได้เดือนละ 10 ล้านคนตามเป้าหมาย การเริ่มเปิดประเทศ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง

5 จีไพรเวทเน็ตเวิร์ค ดีแทคชี้ช่วยอุตฯ 4.0
นายราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจองค์กรและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ดีแทคได้นำ เทคโนโลยี 5จี ไพรเวท เน็ตเวิร์ค มาช่วยปลดล็อกอุตสาหกรรมและกลุ่มผู้ประกอบการที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และต้องเร่งวางแผนระยะยาวหลังวิกฤติโควิด-19 ที่ต้องพัฒนาสู่การใช้งาน ไอโอที แอพพลิเคชั่น ที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในอุตสาหกรรมและองค์กรต่างๆ ที่มีความหลากหลาย ด้วยความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถออกแบบได้เฉพาะตามความต้องการของแต่ละองค์กรที่มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ให้บริการ หรือผลิตสินค้าที่มีความเฉพาะกลุ่ม เช่น ภาคการผลิต การประกอบรถยนต์ กลุ่มท่าเรือ กลุ่มคมนาคมขนส่ง กลุ่มสาธารณสุข กลุ่มการเกษตร เป็นต้น

'ยิ่งออมยิ่งได้' หมดเกลี้ยง แอพเป๋าตังศักยภาพดีมาก
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หรือสบน. เปิดเผยว่า ผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ "ยิ่งออมยิ่งได้บนวอลเล็ต สบม." รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.80% ต่อปี ซึ่งเปิดจำหน่ายผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยจำหน่ายได้ครบ 10,000 ล้านบาท ในเวลา 11.15 น. หรือใช้เวลาเพียง 2.45 ชม. ส่วนพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ "ยิ่งออมยิ่งได้" จะจำหน่ายผ่าน 4 ธนาคาร คือ กรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทยและไทยพาณิชย์ ในวันที่ 12-23 ก.ค.นี้ โดยจำหน่ายพร้อมกันทั้งประชาชนและนิติบุคคลไม่แสวงหาผลกำไร รุ่นอายุ 4 ปี ดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ย 1.90% ต่อปี ให้กับประชาชน และรุ่นอายุ 10 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 2.20% ต่อปี

เผยโรงแรม 68% รอวันตาย มีสภาพคล่องไม่ถึง 3 เดือน
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม ในเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมาว่า ผู้ประกอบการที่พักแรมยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราการเข้าพักจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับต่ำมาก โดยเฉพาะภูมิภาคที่พึ่งพาการท่องเที่ยวสูง และส่วนใหญ่ยังมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจได้ไม่ถึง 3 เดือน ทั้งนี้ จากการสำรวจโรงแรม 200 แห่ง พบโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราว ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมในภาคใต้ที่ปิดกิจการมาแล้วมากกว่า 1 ปี โดย 75% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งหลังไตรมาส 4 ปี 64 เป็นต้นไป

ชงครม.ดันไทยเข้าซีพีทีพีพี
ศก.-ลงทุน-ส่งออก-จ้างงานพุ่ง ภาคสังคมยังค้านหวั่นแข่งไม่ได้
รายงานข่าวจากคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กนศ. ได้ศึกษาข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเห็นว่าไทยควรเข้าร่วมเป็นสมาชิก เพราะได้รับประโยชน์และหากไม่เข้าจะสูญเสียโอกาสทางด้านเศรษฐกิจมาก ซึ่งในเร็วๆ นี้ จะเสนอให้ ครม. ตัดสินใจว่าไทยควรเข้าร่วมหรือไม่ หลังจากพ้นกำหนดตั้งแต่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ลุ้นอ้อยเข้าหีบ 90 ล้านตัน
นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำตาล สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมน้ำตาลฤดูการผลิตปี 2564/65 ที่จะทำการเปิดหีบอ้อยในช่วงปลายปีนี้ มีโรงงานทั้งหมด 57 แห่ง มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องทั้งปริมาณผลผลิตอ้อยที่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 80-90 ล้านตันที่สูงกว่าฤดูหีบปี 63/64 ที่อยู่ที่ 66.67 ล้านตัน ส่งต่อผลผลิตน้ำตาลทรายและการส่งออกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกเฉลี่ยยังทรงตัวระดับสูงประมาณ 17-18 เซนต์ต่อปอนด์ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าอยู่ระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับฤดูหีบปีที่ผ่านมาเฉลี่ย 30-31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเอื้อต่อการส่งออก

ยอดใช้จ่ายบัตร 'เคทีซี' ไม่เข้าเป้า
นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจบัตรเครดิต บมจ.บัตรกรุงไทย (เคทีซี) เปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี 6 เดือนที่ผ่านมามี 94,000 ล้านบาท เติบโตเพียง 4% เนื่องจากการระบาดโควิด-19 เข้ามากระทบทำให้คนใช้จ่ายน้อยลง และคาดว่าจะมีโอกาสต่ำกว่าเป้าหมายเติบโต 8% ทั้งปี 64 โดยการใช้จ่ายทั้งปีอาจอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% เช่นเดียวกับยอดสมาชิกบัตรใหม่ที่จะต่ำกว่าเป้าหมาย 2.3 แสนใบ โดยพนักงานขายจะต้องเร่งหาวิธีและช่องทางเพื่อขยายฐานลูกค้าบัตรใหม่เพิ่มเติม

ปั้นกิจกรรมออนไลน์ฝ่าโควิด เงินเข้าไทยแล้วหมื่นล้านบาท
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ผลการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกผ่านช่องทางออนไลน์ในครึ่งปีแรก 64 สามารถผลักดันให้เกิดการค้าขายสินค้าไทยกับต่างประเทศได้มูลค่ากว่า 10,152 ล้านบาท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลัง กรมฯ จะส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้าออนไลน์แบบเสมือนจริงและผสมผสานอีกหลายงานอย่างต่อเนื่อง เช่น สินค้าอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องมือแพทย์

ของแพงดันเงินเฟ้อพุ่ง 1.25%
นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน มิ.ย.2564 เท่ากับ 99.93 เพิ่มขึ้น 1.25% เมื่อเทียบกับ มิ.ย.63 ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดกัน แต่เพิ่มแบบชะลอตัวลง ทำให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือนของปี 64 (ม.ค.-มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 0.89% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออกอยู่ที่ 100.47 เพิ่มขึ้น 0.52% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย.63 และเฉลี่ย 6 เดือนเพิ่มขึ้น 0.27%

สั่งแยกประเภท' เอสเอ็มอี' เร่งอัดมาตรการช่วยถูกตัว
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ของเอสเอ็มอีของไทยที่ได้รับผลกระทบจาการระบาดของไวรัสโควิด-19 นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้หาทางช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบทุกประเภท พร้อมทั้งแยกกลุ่มให้ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มที่ยังมีศักยภาพไปต่อกลุ่มมีศักยภาพแต่กำลังประสบปัญหา กลุ่มที่มีปัญหาหนัก และกลุ่มที่ไปต่อไม่ไหวแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น