วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 20 พ.ค. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

เหล็กพุ่งดันเดอะสตีลกำไรโต
นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เดอะสตีล เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าผลประกอบการปี 64 นี้สามารถพลิกกลับมามีกำไร และมีรายได้ 13,000 ล้านบาท ตามเป้าหมาย จากการขายเหล็กม้วนดำซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัทราคาปรับเพิ่มขึ้นมาจากกิโลกรัมละ 18-19 บาท เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 30 บาท ตามราคาตลาดโลกที่พุ่งขึ้น ทำให้ราคาขายเหล็กโดยเฉลี่ยของบริษัทในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 32% ทำให้ผลการดำเนินไตรมาส 1 ที่ผ่านมามีรายได้จากการขาย 3,202 ล้านบาท เติบโต 85% และพลิกมีกำไรสุทธิ 349.61 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 160.72 ล้านบาท เติบโต 317%

อาหารเสริม-สมุนไพรแรง
โควิดมาคนแก่พุ่งหันหน้าพึ่ง แนะเอกชนเร่งผลิตป้อนโลก
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า แนวโน้มความต้องการบริโภคอาหารเสริมและวิตามินในไทยและทั่วโลกมีทิศทางเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากการแพร่ระบาดของโควิดได้ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้น รวมถึงจำนวนประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่ม ก็ส่งผลให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายมากกว่าเดิม จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารเสริมวิตามินของไทย จะเข้ามาขยายตลาดภายในประเทศ และส่งออกได้เพิ่มขึ้น

ปตท.เดินหน้าหาแอลเอ็นจี
นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า ปตท.ได้เร่งจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี ตามสัญญาระยะยาวที่มีอยู่ เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซฯ ที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและเหตุการณ์หยุดผลิตที่ไม่เป็นไปตามแผนของโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งใน และต่างประเทศ โดยโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทั้งใน และต่างประเทศ 4 แห่ง คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 2,750 เมกะวัตต์ คือ โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี โรงไฟฟ้าแม่เมาะ รวมถึงโรงไฟฟ้าหงสา ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตั้งอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และส่งกระแสไฟฟ้ามายังประเทศไทย

ไม่ตั้งใจโกงกรมศุลฯ ลดค่าปรับ
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การลดเงินเพิ่ม (ฉบับที่ 2) โดยกำหนดให้ผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออกและจ่ายอากรไม่ครบถ้วนโดยไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงและได้นำอากรที่ยังจ่ายไม่ครบมาจ่ายให้กรมศุลกากรในช่วงเวลาที่กฎกระทรวงฉบับนี้ใช้บังคับให้ได้รับการลดเงินเพิ่มเหลือ 0.25% ต่อเดือนของอากรที่ต้องเสียหรือเสียเพิ่ม นับแต่วันที่นำของออกไปจากอารักขาของศุลกากรหรือส่งของออกไปนอกราชอาณาจักรจนถึงวันที่จ่าย มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึงวันที่ 30 ก.ย.64

ชี้ครัวเรือนรายได้หดหนี้สูง จี้แบงก์หาช่องช่วยเพิ่มด่วน
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้เผยแพร่รายงานคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยประเมินภาคครัวเรือนไทยจะมีฐานะการเงินเปราะบางมากขึ้นจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้รายได้ลดลงและภาระหนี้ต่อรายได้สูงขึ้น แม้ที่ผ่านมาสถาบันการเงินได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยในระดับหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่เป็นการพักชำระหนี้ซึ่งช่วยบรรเทาปัญหาเพียงระยะสั้นเท่านั้น จึงเห็นควรให้สถาบันการเงินเร่งช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม ซึ่งระยะสั้นควรมีมาตรการลดภาระหนี้และมาตรการสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่าย เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ

กกร.หั่นจีดีพีเหลือ 0.5-2%
พิษโควิด-19 รอบสามแรงเกินต้าน ย้ำเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณฟื้น
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยหลังการประชุม กกร. ประจำเดือน พ.ค. ว่า กกร. ได้ปรับกรอบประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจปี 64 ใหม่จากเดิม คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัว 1.5-3% เป็นขยายตัว 0.5-2% ขณะที่การส่งออกมีแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว สหรัฐจึงปรับการส่งออกจากเดิม โต 4-6% เป็น 5-7% ขณะที่เงินเฟ้อคงเดิมที่ 1-2% เนื่องจากการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มรุนแรงและส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวช้าลงกว่าเดิม โดยส่งผลกระทบต่อทั้งการจ้างงานและกำลังซื้อในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 อย่างมาก

ลุยบริการบริหาร 'ทรัพย์สิน'
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ หัวหน้ากลุ่มไพรเวทแบงกิ้ง ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ไพรเวทแบงก์กสิกรไทยมีแผนที่จะสนับสนุนบริการที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพย์สินครอบครัว เข้ามารับมือการวางแผนทรัพย์สินช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 หลังจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากครอบครัวผู้มีทรัพย์สินอย่างมาก โดยปัจจุบันได้ให้บริการที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพย์สินครอบครัวแก่ลูกค้ามาทั้งสิ้น 3,600 ราย หรือคิดเป็น 720 ครอบครัว ครอบคลุมทรัพย์สินครอบครัว ทั้งธุรกิจและที่ดินรวมมูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท

ช็อปไลน์ชี้อีคอมเมิร์ซ ทางรอดเอสเอ็มอีไทย
นายชนนันท์ ปัญจทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไปของ ช็อปไลน์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ช็อปไลน์ฯ ได้ประกาศความพร้อมช่วยเอสเอ็มอีไทยให้ผ่านวิกฤติการค้า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ระลอกใหม่ ด้วยอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซ ผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ คือ การนำเสนอโซลูชันที่จะตอบโจทย์ธุรกิจ ทั้งระบบบริการจัดการร้านค้าออนไลน์ ทั้งระบบการจัดการออร์เดอร์ การจัดการสต๊อกสินค้า การชำระเงิน การทำระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ฯลฯ พร้อมด้วยการติดอาวุธผู้ประกอบการ ด้วยการสัมมนาออนไลน์ฟรี เพื่อให้ทำธุรกิจให้สำเร็จและสุดท้าย คือ การออกแพ็กเกจค่าบริการในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุดเพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจทุกขนาดสามารถเข้าถึงบริการได้

คาดบ้านในกทม.-ปริมณฑล ค้างสต๊อก 8.5 แสนล้านบาท
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 64 ว่า แม้ปีนี้ยอดขายที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลโดยรวมจะเพิ่มขึ้น 4% คิดเป็น 69,996 หน่วย มูลค่ากว่า 310,000 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการเปิดขายโครงการใหม่ลดลง 10% เหลือ 59,600 หน่วย มูลค่า 308,400 ล้านบาท แต่กลับพบว่าจำนวนที่อยู่อาศัยเหลือค้างสต๊อกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังคงมีปริมาณสูงถึง 174,773 หน่วย โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 853,400 ล้านบาท

'ดีป้า' หนุน 17 โครงการชุมชน
นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการส่งเสริมและสนับสนุน เห็นชอบโครงการที่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านมาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อชุมชนในชนบท ทั้งสิ้น 17 โครงการ ประกอบด้วย โครงการที่ขอรับการส่งเสริม และสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง การเกษตรและปศุสัตว์อัจฉริยะ จำนวน 3 โครงการ เทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์มและแอพพลิเคชั่น จำนวน 11 โครงการ และเทคโนโลยีสภาพแวดล้อมเสมือนจริง เพื่อการท่องเที่ยวชุมชน จำนวน 3 โครงการ รวมมูลค่าการสนับสนุนกว่า 2.3 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนและสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในชนบทไม่น้อยกว่า 4 ล้านบาทต่อปี

คุมแจกเงินสวัสดิการเกษตร จี้ 'คลัง-กษ.-มท.' ทำข้อมูลชัด
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุม ครม.ได้รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (กตน.) โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิการภาครัฐที่เกษตรกรแต่ละรายได้รับ โดยได้สั่งให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำข้อมูลสวัสดิการภาครัฐของบุคคลหรือกลุ่มอาชีพ เช่น เกษตรกร กลุ่มคนเปราะบาง กลุ่มอาชีพอิสระและรับจ้างทั่วไป และให้คณะอนุกรรมการบูรณาการจัดทำชุดข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสวัสดิการภาครัฐที่เกษตรกรแต่ละรายได้รับเพื่อให้ทราบภาพรวมการช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐบาล ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง อย่างเป็นรูปธรรมให้มีความชัดเจน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น