วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 20 เม.ย. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

อึ้งจบม.6 อยากเป็นเถ้าแก่
เมินเรียนสูงค่าใช้จ่ายแพง! จี้ปรับหลักสูตรดึงเด็กเรียน
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่าค่านิยมของเยาวชนไทยแบบใหม่ จะเริ่มทำงานทันทีหลังจากจบระดับมัธยมศึกษาหรือเรียนหลักสูตรเสริมวิชาชีพเพื่อทำธุรกิจส่วนตัวมากขึ้นหรือเป็นสตาร์ทอัพ ส่วนหนึ่งต้องการแบ่งเบาภาระครอบครัว เนื่องจากค่าเรียนปัจจุบันราคาสูงหรือไม่ก็หันไปเรียนวิชาชีพเสริมแล้วไปทำธุรกิจเลย เช่น เปิดร้านขายของ ร้านกาแฟ ขายของออนไลน์ ได้เงินง่าย ขณะเดียวกันหลักสูตรการเรียนปัจจุบันไม่ตอบโจทย์เด็กยุคใหม่ที่ต้องการเรียนสาขาที่เป็นอนาคตจบมามีงานทำ เช่น สาขานวัตกรรมต่างๆ

บาทพลิกแข็งค่ารอบ 7 สัปดาห์
น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้ประเมินค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่ 31.10-31.40 บาทต่อดอลลาร์ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทซื้อขายในช่วง 31.17-31.58 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 7 เดือน ก่อนจะพลิกกลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบรายสัปดาห์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ มาจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว (บอนด์ยีลด์) ของสหรัฐปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน แม้ข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกสหรัฐสูงเกินคาดก็ตาม

'กัลฟ์' แจงเหตุซื้อหุ้นอินทัช หวังช่วยต่อยอดธุรกิจดิจิทัล
นายสมิทธ์ พนมยงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารสินทรัพย์ธุรกิจในเครือและการลงทุน บมจ.กัลฟ์ เปิดเผยภายหลังจากแจ้ง ตลท.เรื่องการเข้าซื้อหุ้นใน บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ หรืออินทัช ว่าการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้เพื่อช่วยต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานจากธุรกิจเดิมด้านพลังงานไปสู่ธุรกิจใหม่ด้วยดิจิทัลในอนาคต ซึ่งสอดรับกับอินทัช ที่เป็นบริษัทที่มีความพร้อมและครอบคลุมทุกด้านทั้งธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ เทคโนโลยี และดิจิทัล อีกทั้งยังถือเป็นการปรับตัวหลังจากหลายธุรกิจถูกดิสรัปชั่นด้วยดิจิทัล

เจเคเอ็น 18 ฟุ้ง 3 ปีปั๊ม 5 พันล.
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ เจเคเอ็น เปิดเผยหลังจากเข้าซื้อกิจการช่องนิว 18 ว่า จะเปลี่ยนชื่อเป็นช่องเจเคเอ็น 18 โดยบริษัทได้รับสิทธิเป็นเจ้าของทั้งหมดทั้งอุปกรณ์ ตึก ที่ดินต่างๆ เพื่อนำมาต่อยอดการเติบโต โดยเร่งขยายฐานผู้ชมจากดาวเทียมสู่ทีวีดิจิทัลและผลักดันการเติบโตกลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซโดยนำจุดแข็งด้านการผลิตคอนเทนต์รายการ ทั้งข่าวซีรีส์ดังที่มาสร้างเรตติ้ง พร้อมกับใช้เป็นช่องทางขายสินค้าโดยตรง 24 ชั่วโมง ตั้งเป้าหมาย 3 ปี มีรายได้ 5,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้รวม 2,500 ล้านบาท

คลังชี้รื้อฐานข้อมูล-สวัสดิการ หวังช่วยให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนคนไทยทั้งหมด เพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมถึงการจัดสวัสดิการให้ประชาชนได้อย่างเหมาะสม เช่น ประชากร 1 คน ได้รับสวัสดิการจากรัฐประเภทใดบ้าง และรัฐต้องช่วยเหลือดูแลต่อไปอย่างไร รวมถึงการทบทวนสิทธิการถือครองบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอรายละเอียดและเงื่อนไขต่อคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พิจารณาใน พ.ค.นี้

หน่วยงานกุมขมับถูกเขียมงบ
สงป.ชี้ให้แค่จำเป็นไม่เกิน 75% ย้ำกันไว้รับมือโควิดระบาดใหม่
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงบประมาณ หรือ สงป.ได้ทำหนังสือเวียนถึงทุกหน่วยงานเกี่ยวกับการอนุมัติเงินจัดสรรงบประมาณประจำปี 64 ไตรมาสที่ 3-4 โดยเฉพาะงบรายจ่ายลงทุนและการก่อหนี้ผูกพันที่ต้องจัดสรรใหม่ให้เกิดความเหมาะสม ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณให้เกิดความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ โดยกำหนดการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายในลักษณะงบลงทุนไม่ว่าจะเบิกจ่ายในงบรายจ่ายใดที่เป็นโครงการแบบปีเดียว จะจัดสรรให้สำหรับใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันในไตรมาสที่ 3 เท่านั้น

26 เม.ย.ปล่อยกู้โกดังเก็บหนี้
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.กำหนด พ.ร.ก.ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ทั้งมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ (สินเชื่อฟื้นฟู) และมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ (โครงการพักทรัพย์ พักหนี้) วงเงินรวม 3.5 แสนล้านบาท โดยเริ่มให้สถาบันการเงินมาขอกู้และไปปล่อยกู้ภาคธุรกิจต่อตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.เป็นต้นไป หลังจากได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.64

สั่งค่ายมือถือดูแลสัญญาณ รับมาตรการเวิร์ก ฟรอม โฮม
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า กสทช.ได้สั่งกำชับผู้ให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกราย ดูแลคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเทอร์เน็ต ให้พร้อมรองรับการใช้งานของประชาชนจำนวนมากพร้อมๆ กัน เพื่อรองรับมาตรการทำงานจากที่บ้าน หรือเวิร์ก ฟรอม โฮม ของรัฐบาล และการติดต่อสื่อสารจำนวนมากในช่วงโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ และให้เตรียมทีมงานให้พร้อมแก้ไข กรณีอุปกรณ์ หรือสัญญาณขัดข้องด้วย ขณะเดียวกันได้ให้โอเปอเรเตอร์ทุกราย จัดส่งรถขยายสัญญาณเข้าในพื้นที่ โรงพยาบาลสนาม หน่วยงานสาธารณสุข ที่เกี่ยวข้องในการรักษา และควบคุมโรคโควิด-19 ให้พร้อมใช้งาน 24 ชั่วโมงด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น