วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 15 มี.ค. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เอกชน-อว.ลงขัน 2 พันล้าน ประเดิมกองทุนนวัตกรรม
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการร่วมลงเงินทุนระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีว่า ล่าสุดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เห็นชอบโครงการนี้แล้ว พร้อมสมทบเงินกองทุน 1,000 ล้านบาทภายใน 3 ปีแรก คาดว่า กองทุนฯ นี้จะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ คาดว่า ช่วงแรกจะมีเงินลงทุนทั้งภาครัฐ และเอกชนประมาณ 2,000 ล้านบาท จะช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ 500-1,000 ราย และเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 5 เท่า

แนะลูกหนี้เช็กสัญญาเงินกู้ หลังรัฐไฟเขียวลดดอกเบี้ย
รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยถึงการแก้ไขกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อลดดอกเบี้ยปรับและดอกเบี้ยผิดนัดเหลือ 3% และ 5% ว่า หลังจาก ครม.เห็นชอบแล้วจะ ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรก่อน ซึ่งอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ที่ต้องตรวจสอบและทำความเข้าใจกันอีกครั้งหลังจากนี้ และหากมีการบังคับใช้จริงแล้ว ลูกหนี้คงต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่า สัญญาเงินกู้ของตนเข้าข่ายหรือไม่ เช่น เป็นสัญญาการกู้ยืมระหว่างบุคคล-บุคคลโดยไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้อย่างชัดเจนในสัญญา เพราะหากเป็นกรณีอื่นอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดก็จะเป็นไปตามกฎหมายเฉพาะอื่น เช่น ในกรณีที่เป็นสัญญากู้เงินจากสถาบันการเงิน ข้อกำหนดเรื่องดอกเบี้ยของสินเชื่อแต่ละประเภทก็จะเป็นไปตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

'ทีเอ็มบี' เปิดสมัครใจลาออก ให้ค่าตอบแทนสูงสุด 17 เดือน
นายปิติ ตันฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดทำโครงการเกษียณก่อนกำหนด (เออร์ลี่รีไทร์) เพื่อให้พนักงานที่มีความต้องการ ได้มีเงินก้อนเงินชดเชยตามกฎหมายกำหนดสูงสุด 13 เดือน และธนาคารเพิ่มชดเชยพิเศษอีก 4 เดือน ทำให้พนักงานที่ต้องการเข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินชดเชยรวมสูงสุดถึง 17 เดือนตามอายุงาน โดยเป็นไปตามกระบวนการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทยและธนาคารธนชาต ซึ่งขณะนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว และมั่นใจทุกอย่างจะเสร็จสิ้นในเดือน ก.ค. 64 นี้

คาดสิ้นปีค่าเงินอ่อน ได้เห็นแน่ 30-31 บาท
นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) เปิดเผยว่า ประเมินแนวโน้มค่าเงินบาทสิ้นปี 64 อาจอ่อนค่าลงจากสิ้นปี 63 คาดอยู่ในช่วง 30-31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเร็วกว่าประเทศอื่นตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาวที่ปรับเพิ่มขึ้นเร็ว

คนไทยสูบยาเส้นกระหน่ำ
ย้ำ 'เศรษฐกิจทรุด-บุหรี่แพง' บี้เมินการเมืองขึ้นภาษีสกัด
นายอรรถกฤต ปัจฉิมนันท์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยได้เปลี่ยนพฤติกรรมหันมาสูบยาเส้นเพิ่มมากขึ้น จนแซงหน้าบุหรี่ไปแล้ว โดยข้อมูลจากรายงานประจำปี 63 ของการยาสูบแห่งประเทศไทย พบว่ามีอัตราการบริโภคยาเส้นมากถึง 26.19 ล้านกก. สูงกว่าบุหรี่ที่มีเพียง 22 ล้านกก. โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากผลกระทบทางเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของโควิด จึงทำให้คนมีรายได้ลดลง จนต้องเปลี่ยนเลิกซื้อบุหรี่ที่มีราคาแพง และหันมาสูบยาเส้นที่ราคาถูกกว่าแทน โดยปัจจุบันยาเส้นมีราคาเฉลี่ยซองละ 15 บาท ซึ่งถูกกว่าบุหรี่ที่ราคาถึงซองละ 60-145 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น