วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 01 มี.ค. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

ท่องเที่ยวดันวัคซีนพาสปอร์ตสุดลิ่ม
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้หารือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถึงการออกมาตรการวัคซีนพาสปอร์ต ซึ่ง สธ.อยู่ระหว่างติดตามประกาศมาตรฐานกลางขององค์การอนามัยโลก เพื่อออกมาตรการให้สอดรับกับมาตรฐานของไทย ตั้งเป้าหมายฟื้นความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประเมินว่าปีนี้ หากไทยมีวัคซีนพาสปอร์ต หรือแนวทางที่สนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยได้สะดวก ไม่กักตัวจะทำให้ทั้งปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน

ตีตรา 3 หมื่นโรงเรียนทั่วไทย
พ.ค.ใช้มาตรฐานปลอดภัย ชี้คุ้มครองเด็กคลุมทุกด้าน
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการผลักดันให้นำมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยไปใช้ในโรงเรียนว่า สมอ.ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และภาคีเครือข่ายเด็กปลอดภัยทั้งจากภาครัฐและเอกชนกว่า 10 หน่วยงาน อยู่ระหว่างการจัดทำมาตรฐานโรงเรียนปลอดภัย เพื่อให้สถานศึกษาในสังกัด สพฐ. กว่า 30,000 แห่ง นำไปประยุกต์ใช้บริหารจัดการภายในโรงเรียน เนื่องจากที่ผ่านมามีอุบัติเหตุบ่อยครั้งที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน

จ่อผุดเครื่องดื่มกัญชง 'อิชิตัน' เผยพร้อมมาก
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป้าหมายการดำเนินงานในปี 64 อิชิตัน กรุ๊ป จะเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบสนองพฤติกรรม และเทรนด์ใหม่ๆ ของผู้บริโภค รวมถึงการนำกัญชงมาต่อยอดในธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งปัจจุบันได้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิต (ที่ไม่ใช่การปลูก) ไปเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะได้รับการอนุญาตเป็นรายแรกๆ ในเร็วๆ นี้ เพื่อที่ว่าเมื่อกฎหมายรองรับอย่างเป็นทางการ อิชิตัน จะมีความพร้อมในทุกด้านในการเข้าทำตลาดเครื่องดื่มซีบีดีทันที

สั่งศึกษาผ่อนผันวินัยการคลัง หวังหาเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาแผนระยะสั้นและแผนระยะยาว เพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจ รวมถึงศึกษาข้อจำกัดในเรื่องวินัยการเงินการคลังว่าสามารถผ่อนปรนได้หรือไม่ หากจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมารวดเร็ว ซึ่งเมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ก็อาจกลับมาใช้กรอบวินัยการเงินการคลังตามแนวทางเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น