วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2564

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 13 ม.ค. 2564

 สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

ไฟเขียวลดภาษีหักที่จ่าย 2%
หนุนคนไทยมีเงินเหลือเพิ่ม ต่อเวลาหนุนกองทุนถึงปี 65
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. วันที่ 12 ม.ค. เห็นชอบมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการใช้ระบบภาษีหัก ณ ที่จ่าย อิเล็กทรอนิกส์ โดยลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่มีอัตรา 5% และ 3% เหลือ 2% สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมินผ่านระบบภาษีหัก ณ ที่จ่าย อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 63-31 ธ.ค. 65 ซึ่งจะช่วยคืนสภาพคล่องให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ ทำให้มีกระแสเงินสดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 24,840 ล้านบาท

'ปริญญ์' ชงบล็อกเชนพลิกไทย
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัยพรรคประชาธิปัตย์ ปาฐกถาพิเศษด้านเศรษฐกิจดิจิทัลภายใต้หัวข้อ "ปฏิรูปประเทศไทยด้วยระบบบล็อกเชน!?" ว่า ระบบบล็อกเชน เป็นนวัตกรรมทางการเงินยุค 4.0 ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการข้อมูลที่มีความโปร่งใส ไร้ตัวกลาง และปลอดภัย เนื่องจากไม่มีใครสามารถแฮกละเมิดข้อมูลในระบบได้ จึงทำให้ไม่เกิดการบิดเบือนข้อมูล ได้ข้อมูลที่เป็นจริงอยู่เสมอ โดยไทยควรนำระบบบล็อกเชนมาใช้กับงบประมาณของภาครัฐ โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาและยุติธรรมกับทุกฝ่าย เพราะประชาชนต้องการเห็นการขับเคลื่อนประเทศที่ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้

ลาซาด้าหั่นราคาสินค้าคืนกำไร
น.ส.ภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกแคมเปญ บอกลาอาการคิดหนัก บอกลาซาด้าด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ ทั้งแจกฟรีคูปองลดราคาที่ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้ บริการจัดส่งฟรี และส่งคืนสินค้าฟรี พร้อมกับนำสินค้าประมาณ 1 ล้านรายการ จำหน่ายในราคาประหยัดในราคาเดิมกว่า 1 เดือน ครอบคลุมสินค้าในชีวิตประจำวัน สินค้าด้านสุขภาพและความงาม สินค้าภายในบ้าน สินค้าแฟชั่น และสินค้าเทคโนโลยี เพื่อคลายความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภคในสถานการณ์ปัจจุบัน ตั้งแต่วันนี้-21 ก.พ. 64 ผ่านแอพพลิเคชั่นลาซาด้า

โควิดไม่จบศก.โตแค่ 2%
รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยเกียรตินาคิน ภัทร เปิดเผยว่า ได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 64 ลงจากเดิมคาด 3.5% เหลือ 2% เนื่องจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยทั้งการประกาศปิดเมืองจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศชะลอลงกว่าที่เคยประเมินไว้ กระทบต่อการลงทุน การจ้างงาน รายได้และการบริโภค และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะกลับมาได้ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ มีแนวโน้มล่าช้าออกไปกว่าเดิม

ชี้เป้าลงทุนหุ้นไตรมาส 1 เน้นพลังงาน-สุขภาพรุ่ง
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุนในช่วงไตรมาส 1 ปี 64 นี้ ควรเน้นเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ขึ้นอยู่กับวัฏจักรเศรษฐกิจ รวมถึงซื้อสะสมหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์ในอนาคต ได้แก่ พลังงานสะอาด การดูแลสุขภาพ และการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี เพื่อรับการฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจ คาดว่า จีดีพีจะเติบโต 3% จากปี 63 ซึ่งมีแรงขับเคลื่อนหลักจากการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก หลังจากเกิดโควิด-19 ปีที่ผ่านมา เริ่มเห็นการปรับตัวในอุตสาหกรรมไปบ้างแล้วและมองว่าอุตสาหกรรมที่จะเห็นการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นปีนี้ คือ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี, ประกัน, อาหาร, บรรจุภัณฑ์, การแพทย์ และขนส่งทางบก

ปรับแผนกู้เงินใส่พานรัฐ
พรก.1 ล้านล.ประคองศก.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้มีการหารือ กับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อปรับแผนหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 64 โดยเป็นการปรับปรุงแผนครั้งที่ 1 ซึ่งจะปรับแผนการกู้เงินบริหารหนี้ประจำปีเป็นงานปกติที่เมื่อเริ่มปีงบประมาณใหม่ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเสนอปรับปรุงแผนต่างๆ ให้สอดคล้องกันด้วย นอกจากนี้ยังได้หารือเรื่องผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิดระลอกใหม่ ซึ่งใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท นำมาใช้เพื่อเยียวยา ฟื้นฟู ประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย

เกินครึ่งมั่นใจรัฐแก้โควิด เผยคนกรุงสาหัสหนักสุด
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.รับทราบผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตวิถีใหม่ในปี 63 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติได้สอบถามประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน 6,970 คน พบว่า ด้านความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการดำเนินมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประชาชนให้คะแนนความเชื่อมั่นเฉลี่ย 7.18 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ส่วนความสุขในการดำรงชีวิต ประชาชนให้คะแนนความสุขเฉลี่ย 7.22 คะแนน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น